ฉีดวิตามินผิว กี่ครั้งเห็นผล

การฉีดวิตามินผิว หรือการดริปผิว จำเป็นต้องทำอย่างสม่ำเสมอ โดยช่วง 1-2 เดือนแรก อาจต้องมีการฉีดทุกสัปดาห์ หรือ 2 สัปดาห์ 1 ครั้ง และหลังจากนั้นสามารถเว้นระยะห่างมากขึ้นได้ ซึ่งจำนวนการฉีดและความถี่ในการฉีดต้องได้รับการประเมินจากแพทย์ เพื่อความปลอดภัย และผลลัพธ์ที่ชัดเจนในการรักษา

ปัจจัยอะไรบ้างที่มีผลต่อการเห็นผลหลังฉีดวิตามินผิว

• การเข้ารับบริการอย่างสม่ำเสมอ เพราะปัญหาผิวของแต่ละคนมีความแตกต่างกัน จึงจำเป็นต้องมีการประเมินปัญหาผิวก่อนเริ่มกระบวนการรักษา ดังนั้น เพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจนควรเข้ารับบริการอย่างสม่ำเสมอ และต่อเนื่อง
• การเลือกสูตรวิตามินที่มีความเหมาะสม เพราะหลายคลินิกมักจะมีการใช้วิตามินแต่ละสูตรเพื่อแก้ไขปัญหาที่แตกต่างกัน ซึ่งการเลือกสูตรที่เหมาะกับปัญหาจะช่วยให้เห็นผลชัดเจนขึ้น
• การทานวิตามินบำรุงเพิ่ม ซึ่งอาจจะเป็นผลิภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของวิตามินซี เพราะเป็นวิตามินหลักที่กระตุ้นการทำงานของวิตามินหลายชนิด และช่วยให้แข็งแรงขึ้นได้
• สภาพผิวของแต่ละคน เพราะผิวของแต่ละคนจะมีปัญหาที่แตกต่างกัน จึงทำให้ใช้ระยะเวลาและสูตรในการรักษาที่แตกต่างกัน
• การดูแลตัวเองหลังฉีด โดยทั่วไปหลังฉีดวิตามินผิวแพทย์มักแนะนำให้พักผ่อนเพียงพอ ดื่มน้ำเยอะ ๆ และหลีกเลี่ยงแดดจัด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนขึ้น

Vitamin B1

Vitamin B1 เป็นวิตามินที่ร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นได้เอง จึงจำเป็นต้องทานเพื่อให้ได้รับวิตามิน B1 เข้าสู่ร่างกาย ซึ่งสามารถได้จาก ข้าวซ้อมือ, ถั่วลิสง, เนื้อหมู, ปลา, ตับ เป็นต้น

• ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือด 
• ลดอาการหมองคล้ำ 
• เสริมสร้างภูมิคุ้มกันช่วยให้ผิวดูสดใสขึ้น
• ช่วยป้องกันการเกิดสิวจากความเครียด
• บำรุงระบบประสาท
• ช่วยเผาผลาญพลังงานจากอาหาร

Vitamin B2

Vitamin B2 เป็นวิตามิน ซึ่งจำเป็นต่อการทำงานของเซลล์ต่างๆ ในร่างกาย โดยทำหน้าที่เปลี่ยนอาหารให้เป็นพลังงาน ช่วยบำรุงสุขภาพผิว เล็บ ผม และการมองเห็น โดยสามารถพบได้มากใน ผลิตภัณฑ์จากนม, ไข่, เนื้อสัตว์, ตับ, และผักใบเขียว

• มีบทบาทในการลดสิว ลดการอักเสบของผิว 
• ช่วยป้องกันอาการผิวแห้ง ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวไม่แห้งลอก
• ช่วยในการผลัดเซลล์และรักษาคอลลาเจน

Vitamin B5

Vitamin B5 ช่วยสร้างเซลล์ใหม่ บำรุงผิว ผม เล็บ ระบบประสาท และช่วยสร้างเกราะป้องกันผิว ช่วยปกป้องผิวจากการสูญเสียความชื้น ทั้งยังช่วยรักษาความชุ่มชื้นในผิว ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของผิวและช่วยให้ใบหน้าดูอิ่มน้ำและชุ่มชื้นมากขึ้น โดยสามารถพบได้มากในเห็ด อะโวคาโด มันเทศ ถั่วเปลือกแข็ง ไก่ ไก่งวง บร็อคโคลี่

• ช่วยเรื่องความชุ่มชื้น 
• ฟื้นฟูผิวที่แห้งกร้าน 
• บำรุงผิว เส้นผม เล็บ ให้มีความแข็งแรง และช่วยป้องกันการสูญเสียความชุ่มชื้น

Vitamin B6

Vitamin B6 ช่วยคลายเครียด ช่วยควบคุมอารมณ์และการนอนหลับ เพราะการนอนไม่หลับหรือการพักผ่อนไม่เพียงพอ ล้วนเป็นปัจจัยหลัก กระตุ้นให้เกิดการอักเสบในร่างกาย ลดการสร้างเซลล์ใหม่ และทำให้เกิดผิวแห้ง ซึ่งเป็นปัจจัยที่นำไปสู่สิวและริ้วรอยก่อนวัย สามารถพบได้ใน ปลาทูน่า, ไก่งวง, เนื้อวัว, ไก่, มันฝรั่ง, เมล็ดทานตะวัน, ผักโขม, กล้วย

• ควบคุมความมันส่วนเกินและกระชับรูขุมขน
• เสริมสร้างความแข็งแรงให้ผิว
• ปรับสภาพผิวให้มีความเปล่งปลั่ง

Vitamin B12

Vitamin B12 เป็นวิตามินที่มีความจำเป็นในร่างกาย เพราะมีความจำเป็นต่อการสร้างเซลล์ใหม่ และนิยมนำมาเป็นส่วนผสมในครีมทาบำรุงเพื่อบำรุงผิวได้ เพราะช่วยลดการอักเสบ ผิวแห้ง และสิวได้ สามารภพบได้ในไข่ ผลิตภัณฑ์นม ปลา และเนื้อสัตว์

• เสริมการสร้างเซลล์ผิวใหม่ 
• ลดความหมองคล้ำ 
• ทำให้ผิวแข็งแรง

Vitamin C 

• เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ
• ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน 
• ปรับสีผิวให้กระจ่างใส
• ป้องกันการเกิดริ้วรอยก่อนวัย
• ช่วยรักษาบาดแผล
• เสริมความแข็งแรงของเกราะป้องกันผิว
• ปรับสีผิวให้สว่างใส ลดรอยสิว จุดด่างดำ และรอยแดง

Collagen 

• เป็นส่วนประกอบหลักที่มีอยู่ในผิวหนังถึง 70-80% 
• ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น เต่งตึง มีความชุ่มชื้น
• ลดเลือนริ้วรอย ร่องลึก และทำให้ผิวกระชับอิ่มฟู
  การได้รับคอลลาเจนเสริม ช่วยให้ผิวดูสุขภาพดีขึ้นเมื่อทำร่วมกับการบำรุงอื่น ๆ

Alpha-Lipoic Acid หรือ ALA

• เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง
• ช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิว ลดการอักเสบ และปกป้องผิวจากรังสี UV และมลภาวะ
• ลดเลือนริ้วรอยเล็ก ๆ และช่วยให้ผิวเรียบเนียน
• กระตุ้นการไหลเวียนเลือด ทำให้ผิวเปล่งปลั่งสดใส
• ยังช่วยกระตุ้นวิตามิน C และ E ในร่างกายให้ทำงานต่อได้ ทำให้การบำรุงผิวมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ฉีดวิตามินผิว ขอนแก่น เห็นผลในกี่วัน

โดยทั่วไปการฉีดวิตามินผิวจะเป็นหัตถการที่ต้องทำไปสักระยะอย่างต่อเนื่องถึงจะเห็นผลชัดเจน หรือหากสังเกตุหลังจากการฉีดครั้งแรก จะรู้สึกได้ว่าผิวมีความชุ่มชื้นขึ้นเล็กน้อย เมื่อเทียบกับก่อนฉีด เมื่อฉีดครั้งที่ 2-3 จะรู้สึกได้ว่าผิวมีความชุ่มชื้น เริ่มสว่างขึ้น ผิวที่มีความมองคล้ำบางจุดเริ่มลดลง และเมื่อมีการฉีดเพิ่มอย่างต่อเนื่อง ผิวจะสว่าง ใสขึ้น จุดด่างดำต่าง ๆ จะลดลงได้อย่างเห็นได้ชัด

วิธีเตรียมตัวก่อนฉีดวิตามินผิว

• ศึกษาข้อมูลคลินิก ข้อมูลตัวยาวิตามิน ให้ถี่ถ้วน
• หากมีโรคประจำตัว หรือยาที่ต้องทานเป็นประจำ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบ
• พักผ่อนให้เพียงพอ และไม่จำเป็นต้องงดน้ำหรืออาหารก่อนเข้าฉีดวิตามิน

การดูแลตัวเองหลังฉีดวิตามินผิว

• หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่มีแสงแดดจัด และควรทากันแดดที่มี SPF 50 ขึ้นไป
• ควรดื่มน้ำสะอาดในปริมาณมาก ๆ เพื่อช่วยกระตุ้นการทำงานของวิตามินให้ทำงานได้อย่างเต็มที่ และช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื้นมากขึ้น
• งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ เพราะเป็นสารที่มีความอันตรายต่อผิว และร่างกาย
• งดการนวด เกา ถู บริเวณที่ฉีด