ฟิลเลอร์ e.p.t.q. ฟิลเลอร์จากเกาหลี ที่ได้รับความนิยมทั้งในไทยและต่างประเทศ ทั้งนิยมใช้ในคลินิกเสริมความงามหลายแห่ง ที่ใครหลายคนอาจจะเคยเห็นหรือเคยได้ยินชื่อนี้มาไม่มากก็น้อยสำหรับผู้ที่เคยหาข้อมูลของฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ ทั้งมีราคาที่เข้าถึงได้ง่าย จึงทำให้เป็นฟิลเลอร์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก แต่ทั้งนี้ ก็มีหลายท่านยังไม่ทราบว่าฟิลเลอร์ยี่ห้อนี้ ดีอย่างไร มีคุณสมบัติอะไรบ้างทำไมถึงเป็นฟิลเลอร์ที่ได้รับความนิยม ปี 2025 เมื่อเทียบกับฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่นยังควรใช้อยู่หรือไม่ บทความนี้ Wandee Clinic (วันดี คลินิก) จะพาไปอัพเดต Eptq Filler ยังน่าใช้อยู่ไหม ในปี 2025 อัพเดทข้อมูลใหม่ก่อนใคร ว่ายังควรเลือกเติมฟิลเลอร์ตัวนี้อยู่มั้ย ไปชมกันเลยค่ะ
สารบัญ
- อัพเดต eptq filler 2025
- ฟิลเลอร์ e.p.t.q. ออกฤทธิ์อย่างไร
- e.p.t.q. ย่อมาจากอะไร
- ฟิลเลอร์ e.p.t.q. มีกี่รุ่น
- ฟิลเลอร์ e.p.t.q. แต่ละรุ่นฉีดบริเวณไหนได้บ้าง
- ข้อดี – ข้อเสียของการฉีด eptq filler
- อาการหลังฉีดฟิลเลอร์
- e.p.t.q. filler แตกต่างจากฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่นอย่างไร
- การดูแลตัวเองก่อนฉีด ฟิลเลอร์ e.p.t.q.
- การดูและตัวเองหลังฉีด ฟิลเลอร์ e.p.t.q.
- สรุป ฟิลเลอร์ e.p.t.q. ปี 2025 ยังน่าฉีดอยู่มั้ย
อัพเดต Eptq Filler 2025
ฟิลเลอร์ในดวงใจของใครหลายคน ที่เมื่อนึกถึงฟิลเลอร์ก็ต้องนึกถึงฟิลเลอร์ eptq ฟิลเลอร์จากประเทศเกาหลีใต้ ที่มีความโดดเด่นในเรื่องมีเนื้อฟิลเลอร์ค่อนข้างยืดหยุ่น มีความนุ่ม และให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติหลังฉีดมากกว่าฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่น แต่ก็เป็นฟิลเลอร์ที่ผลิตขึ้นเมื่อปี 2020 ทำให้ระหว่างนั้นมีการผลิตฟิลเลอร์ยี่ห้อใหม่ๆ ออกมาอยู่ไม่น้อย แต่ทำไมฟิลเลอร์ eptq ถึงยังโดดเด่น และเป็นฟิลเลอร์ที่ได้รับความนิยมอยู่จนถึงปัจจุบัน ได้ดูกันค่ะ
- ฟิลเลอร์ eptq ได้ผ่าน อย. ทั้ง3 รุ่น
- มีส่วนผสมของยาชา (Lidocaine) ซึ่งทำหน้าที่ลดความเจ็บ ปวด ขณะฉีด
- เนื้อฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่น เนียน มีความละเอียด
- สามารถฉีดได้หลายตำแหน่งในบริเวณใบหน้า
- ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ
ฟิลเลอร์ e.p.t.q. ออกฤทธิ์อย่างไร
e.p.t.q. filler เป็นสารเติมเต็มไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid : HA) ที่มีโครงสร้างโมเลกุลในรูปแบบรวงผึ้ง ซึ่ง HA นี้เป็นสารที่สามารถพบได้ในร่างกายของมนุษย์ โดยจะมีความสามารถในการดูดซับน้ำและรักษาความชุ่มชื้นได้ แต่เมื่ออายุเพิ่มขึ้นร่างกายจะผลิตสารนี้ได้น้อยลง ทำให้ผิวดูเหี่ยว ย่น เกิดริ้วรอยได้ จึงมีการผลิตสารเติมเต็มนี้ขึ้นมาเพื่อเติมเต็มหรือเสริมความยืดหยุ่นในชั้นผิวหนัง เพื่อทดแทนสารที่หายไปตามวัย ทำให้ผิวหน้าดูอวบอิ่ม และช่วยให้ได้สัดส่วนตามต้องการโดย ฟิลเลอร์ e.p.t.q. นี้ถูกออกแบบมาให้มีความหนืดและมีความยืดหยุ่นที่แตกต่างกัน เพื่อใช้ในวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันและใช้ตามความเหมาะสมของแต่ละสภาพผิว และเพื่อให้สามารถเข้ากับโครงสร้างผิวได้ดี ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ทั้งยังเป็นฟิลเลอร์ที่มีความคงทนสูง สามารถคงผลลัพธ์ได้นาน นอกจากนี้ยังเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะของโมเลกุลให้มีการเกาะแน่นขึ้นอีกด้วย
e.p.t.q. ย่อมาจากอะไร
ชื่อของฟิลเลอร์ e.p.t.q. มาจาก Efficiency, Potential, Technology, และ Quality ซึ่งเมื่อนำมาขยายบริบทจะได้ดังนี้
- E : Efficiency ประสิทธิภาพ – คือ ฟิลเลอร์มีประสิทธิภาพสูง โดยความเข้มข้น 24mg/ml ในแบบโครงสร้าง HIVE Structure จากผลการประเมินด้วย WSRS (Wrinkle Severity Rating Scale) โดยคณะแพทย์ แสดงให้เห็นว่า ฟิลเลอร์ eptq นั้นสามารถลดเลือนริ้วรอยได้ดีเมื่อเทียบกับก่อนรักษา และจากการประเมินความพอใจของผู้เข้ารับการรักษา พบว่า อาสาสมัครในกลุ่มทดลองมีระดับความพึงพอใจที่ดีในผลลัพธ์
- P : Potential ศักยภาพ – การใช้กระบวนการ ZEEP Technology ในการผลิต ทำให้ไม่พบสารตกค้าง BDDE ที่อาจทำให้เกิดอาการแพ้และการระคายเคืองหลังฉีด
- T : Technology เทคโนโลยี – โดยการใช้เทคโนโลยีในการผลิตแบบ 2CM Technology (2 Crosslinking Method) เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการยึดเกาะของโมเลกุล HA ให้แน่นยิ่งขึ้น และยืดหยุ่นมากขึ้น และเทคโนโลยี Downing Process เพื่อทำให้ฟิลเลอร์อนุภาค เนื้อฟิลเลอร์มีความละเอียด
- Q : Quality คุณภาพ – ผลิตภายใต้มาตรการ “THE 9 PROCESS” กระบวนการผลิตที่พิถีพิถันตั้งแต่การคัดสรรวัตถุดิบ จนกระทั่งได้ฟิลเลอร์ที่ได้ตามมาตรฐาน European pharmacopoeia จึงเป็นตราประทับและการันตีในเรื่องของความปลอดภัย
ฟิลเลอร์ e.p.t.q. มีกี่รุ่น
สำหรับฟิลเลอร์ e.p.t.q. มีทั้งหมด 5 รุ่น แต่รุ่นที่ได้ผ่าน อย. ของไทยนั้น มีอยู่ 3 รุ่นด้วยกัน คือ
e.p.t.q. S100 Lidocaine
Cross-linked HA 24 mg/ml + 0.3% Lidocaine ปริมาณ 1.1 CC กล่องสีเขียว ฟิลเลอร์เนื้ออ่อนนุ่ม ยืดหยุ่นดี เนื้อเกลี่ยง่าย เหมาะสำหรับเติมเต็มผิวชั้นตื้น ริ้วรอยที่ไม่ลึกมาก ได้อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่เป็นก้อน
e.p.t.q. S300 Lidocaine
Cross-linked HA 24 mg/ml + 0.3% Lidocaine ปริมาณ 1.1 CC กล่องสีส้ม ฟิลเลอร์เนื้อกลาง ยืดหยุ่นดี สามารถยึดเกาะแน่น เติมไปแล้วขึ้นทรงสวย เหมาะสำหรับเติมเต็มริ้วรอยร่องลึกอย่าง ร่องแก้ม, ร่องน้ำหมาก, หว่างคิ้ว เป็นต้น ช่วยแก้ปัญหาแก้มตอบ ขมับตอบ หน้าผากยุบ เพื่อช่วยให้รูปหน้าดูสมดุล ให้ใบหน้ามีมิติ ดูเต็มมากขึ้น และดูอ่อนเยาว์ลง ทั้งยังใช้เติมเพื่อยกมุมปากหรือเติมริมฝีปากให้ดูอิ่ม อย่างเป็นธรรมชาติ
e.p.t.q. S500 Lidocaine
Cross-linked HA 24 mg/ml + 0.3% Lidocaine ปริมาณ 1.1 CC กล่องสีฟ้า ฟิลเลอร์เนื้อแข็ง แต่มีความยืดหยุ่นดีมาก สามารถยึดเกาะแน่น ขึ้นรูปทรงได้ดี จึงเหมาะสำหรับการทดแทนกระดูกหรือไขมันที่ยุบตัว ช่วยยกกระชับ ลดความหย่อนคล้อยของผิว สาเหตุมาจากอายุที่มากขึ้น หรือสามารถนำมาใช้ในการสร้างมิติบนใบหน้าให้ดูคมชัดและดูสมดุลมากขึ้น เช่นจมูก, คาง, โหนกแก้ม เป็นต้น ทั้งยังเพิ่มวอลลุ่มให้ริมฝีปากให้ดูอวบอิ่ม ได้ทรงชัด
ฟิลเลอร์ e.p.t.q. แต่ละรุ่นฉีดบริเวณไหนได้บ้าง
e.p.t.q. S100 Lidocaine กล่องสีเขียว
- เหมาะสำหรับเติมเต็มผิวชั้นตื้น
- บริเวณหน้าผาก
- ขมับ
- ร่องใต้ตา
- ริ้วรอยตื้น
- ฉีดเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ปาก
e.p.t.q. S300 Lidocaine กล่องสีส้ม
- เหมาะสำหรับเติมเต็มริ้วรอยร่องลึก
- หน้าผากยุบ
- ขมับ
- แก้มตอบ
- ร่องแก้ม
- ร่องน้ำหมาก
- หว่างคิ้ว
- ปาก
e.p.t.q. S500 Lidocaine กล่องสีฟ้า
- เหมาะสำหรับทดแทนกระดูกหรือไขมันที่ยุบตัว
- บริเวณแก้มส้ม
- ร่องลึกใต้ตา
- จมูก
- คาง
- โหนกแก้ม
- ปาก
ข้อดี – ข้อเสียของการฉีด eptq filler
ข้อดี
- ได้รับการรับรองจาก USFDA และ EDQM และผ่านการรับรองจาก อย. ประเทศไทย
- เห็นผลไว
- กลืนไปกับผิวได้อย่างเป็นธรรมชาติ
- มีความเข้มข้นสูงถึง 24 mg/ml
- มีส่วนผสมของยาชา
- ยึดเกาะแน่น มีความยืดหยุ่นสูง
- สามารถคงผลลัพธ์ได้นาน
- มีความปลอดภัย
- มีหลายรุ่นตอบโจทย์ทุกปัญหา
- สามารถสลายได้เอง
ข้อเสีย
- เป็นหัตถการที่ไม่ถาวร
- ไม่เหมาะกับฉีดบริเวณที่ตื้นเกินไป
- อาจะเกิดอันตรายเนื่องจากการเลือกฉีดกับหมอที่ไม่มีประสบการณ์ หรือใช้ยาที่ไม่ผ่านการรับรองจาก อย.
- การเลือกฉีดกับคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน เพราะอาจเกิดผลข้างเคียงหลังฉีดได้
อาการหลังฉีดฟิลเลอร์
- 1 วันหลังฉีดฟิลเลอร์อาจจะรู้สึกเจ็บ ปวด แสบ หรือคันหลังจากฉีดฟิลเลอร์ได้ เป็นอาการปกติที่สามารถพบได้ทั่วไป รวมไปถึงอาจจะมีอาการบวมแดงร่วมด้วย ทั้งนี้ หากมีอาการเจ็บ ปวด แสบหรือมีอาการบวมแดงมากๆ ควรเข้าพบแพทย์ทันที
- หลังฉีด อาจมีอาการบวม แดง หรือช้ำได้ ซึ่งเป็นอาการปกติของผู้รับการรักษา ซึ่งจะเป็นมากที่สุดใน 2-3 วันหลังฉีด หลังจากนั้นจะค่อยๆ หายไปเองใน 2 สัปดาห์
e.p.t.q. filler แตกต่างจากฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่นอย่างไร
e.p.t.q. filler นั้นถือว่าเป็นฟิลเลอร์ที่มีความแตกต่างกับฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่นอยู่หลายด้านและมีอะไรเด่นกว่าฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่น ดังนี้ค่ะ
- ใช้เทคโนโลยี 2CM ในการผลิต ทำให้เป็นการเชื่อมโยงสาร Hyaluronic Acid ที่ระดับโมเลกุลถึงสองขั้นตอน ทำให้เพิ่มความเสถียร ความคงรูปและความยืดหยุ่นของฟิลเลอร์ให้ดีขึ้น จึงทำให้ได้ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติและคงผลลัพธ์ได้นานมากขึ้น
- ผ่านการรับรองโดย U.S. FDA (องค์การอาหารและยา ของประเทศสหรัฐอเมริกา) และ EDQM (European Directorate for the Quality of Medicines & HealthCare) ทำให้เป็นฟิลเลอร์ที่มีความปลอดภัยสูงและมีมาตรฐานในการผลิต
- ด้วยเทคนิคในการ crosslink ซึ่งจะส่งผลต่อความสามารถในการยกกระชับผิว (Volumizing effect) ได้เป็นธรรมชาติ
- ผลิตภายใต้มาตรการ “THE 9 PROCESS” กระบวนการที่พิถีพิถันตั้งแต่การคัดสรรวัตถุดิบจนกระทั่งได้ฟิลเลอร์ที่มีคุณภาพตามมาตรฐาน European pharmacopoeia ทำให้เปรียบเสมือนการการันตีเรื่องความปลอดภัย
- มีหลายรุ่น ทำให้เลือกใช้เพื่อนำมาแก้ปัญหาของแต่บุคคลได้อย่างเหมาะสมและครบถ้วน
การดูแลตัวเองก่อนฉีด ฟิลเลอร์ e.p.t.q.
- งดยากลุ่มการต้านอักเสบ (NSAIDs) เช่น แอสไพริน (Aspirin) ไอบูโปรเฟน (Ibuprofen) นาโปรเซน (Naproxen) อินโดเมธาซิน (Indomethacin) อีโตริคอกซิบ (Etoricoxib) หรืออาร์โคเซีย (Arcoxia) และเซเลโคซิบ (Celecoxib) หรือเซเลเบรก (Celebrex)
- งดวิตามิน ที่มีส่วนผสมของแปะก๊วย วิตามินอี เพื่อป้องกันการแข็งตัวของเลือด และป้องกันการออกของเลือดที่เยอะเกินไปขณะเติม
- งดดื่มแอลกอฮอล์ 24-48 ชั่วโมง
- งดสูบบุหรี่ 24 ชั่วโมง
- ศึกษาข้อมูลคลินิก แพทย์ และผลิตภัณฑ์ให้ดีก่อนเข้ารับบริการ
- ตรวจสอบ สแกน ผลิตภัณฑ์ให้ดีก่อนฉีดทุกครั้ง
การดูและตัวเองหลังฉีด ฟิลเลอร์ e.p.t.q.
- ควรงดสัมผัสบริเวณที่ฉีด อย่างการ กด นวด บีบ หรือแตะผิวในบริเวณนั้นมากเกินไป เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนตัวได้
- หลังฉีดเสร็จอาจมีอาการบวมแดงในบริเวณที่ฉีด แต่จะสามารถหายไปเอง ภายใน 1-2 วัน
- ควรงดการแต่งหน้า ทาครีมบำรุง ทำเลเซอร์หรือทรีทเม้นท์ หลังเติมฟิลเลอร์ 1-2 วัน
- หลีกเลี่ยงการโดนความร้อน เช่น การทำอาหาร การแช่น้ำร้อน การซาวด์น่า เป็นเวลา 2 วัน
- หลีกเลี่ยงการทานยากลุ่มการต้านอักเสบ (NSAIDs) เช่น แอสไพริน, ไอบูโปรเฟน, นาโปรเซน เพื่อป้องกันการแข็งตัวของเลือดเป็นเวลา 7 วัน
- ควรดื่มน้ำ มาก ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของฟิลเลอร์ให้ทำงานได้อย่างเต็มที่
- หลีกเลี่ยงการทานอาหารที่มีรสจัด อาหารประเภทกึ่งสุกกึ่งดิบ หรืออาหารที่มีความร้อนจัด เพราะมีส่วนในการกระตุ้นการอักเสบของแผลได้ โดยเฉพาะผู้ฉีดฟิลเลอร์บริเวณปาก
- งดดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์และงดการสูบบุหรี่
สรุป ฟิลเลอร์ e.p.t.q. ปี 2025 ยังน่าฉีดอยู่มั้ย
e.p.t.q. filler นั้นเป็นฟิลเลอร์สัญชาติเกาหลี ที่ได้รับความนิยมมากทั้งในประเทศไทยและได้รับการยอมรับให้จำหน่ายใน 59 ประเทศทั่วโลก เพราะเป็นฟิลเลอร์ที่มีความเข้มข้นสูง และผลิตโดยนวัตกรรมใหม่เฉพาะ จากบริษัท JETEMA Co.,Ltd. ประเทศเกาหลี ผ่านการรับรองจาก อย.ไทย U.S.FDA และ EDQM ทำให้มั่นใจได้ว่าปลอดภัยต่อร่างกาย โดยในปี 2025 ก็ยังนับว่าเป็นฟิลเลอร์ที่ควรค่าแก่การฉีด เพราะคุณภาพและมาตรฐานนั้นไม่เป็นรองฟิลเลอร์ตัวอื่น ทั้งยังมีราคาที่เข้าถึงง่าย และคุณภาพที่แพทย์ยอมรับจากทั่วโลกค่ะ หากสนใจฉีดฟิลเลอร์สามารถเข้ามาปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินปัญหาผิวและวางแผนการรักษาหรือดูรีวิว filler เพิ่มเติมได้ ที่ Wandee Clinic ทุกสาขา