ฟิลเลอร์ หรือ สารเติมเต็มทั่วใบหน้า ซึ่งเป็นสารที่เลียนแบบสารที่มีอยู่ในร่างกายตามธรรมชาติ ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อนำมาทดแทนส่วนที่สลายไปในชั้นผิวหนังอย่าง คอลลาเจน อีลาสติน ทั้งยังช่วยเติมเต็มให้ใบหน้าเข้าที่มากขึ้นหลังเติมอย่างเห็นได้ชัด จึงเป็นสารที่ไม่อันตรายต่อร่างกาย และสามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ

แต่ฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อนั้นก็มีนวัตกรรมการผลิตจากแต่ละบริษัท และประเทศที่มาไม่เหมือนกัน โดยบทความนี้จะพาไปรู้จักกับฟิลเลอร์จากประเทศเกาหลี ฟิลเลอร์ยุโรป และฟิลเลอร์อเมริกากันค่ะ

เนื่องจากเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องความงาม หรือ Cosmetics ต่าง ๆ จึงเป็นประเทศที่สามารถวิจัยและผลิตเกี่ยวกับความงามได้อย่างหลากหลาย และรวดเร็ว ทำให้ฟิลเลอร์หลายยี่ห้อจากประเทศเกาหลีนั้นได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในประเทศไทย และอีกหลายประเทศทั่วโลก เพราะมีเนื้อสัมผัสที่มีความนุ่มนวล มีความเป็นธรรมชาติสูง ทั้งยังมีราคาไม่สูงมาก

จึงทำให้ฟิลเลอร์หลายยี่ห้อได้รับความนิยม และได้รับความไว้วางใจจากวงการแพทย์ความงาม และผู้เข้าใช้บริการเป็นอย่างมาก

Clinabom ฟิลเลอร์ที่ผลิตด้วยนวัตกรรม Crosslinking – VDM (Vibrate Densification Method) ที่ทำให้เนื้อของฟิลเลอร์มีความละเอียดสูง มีความหนืด เหมาะกับทุกสภาพผิว ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ สามารถเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวได้เป็นอย่างดี และไม่ทิ้งสารตกค้างในร่างกาย

e.p.t.q filler เป็นฟิลเลอร์ที่ผลิตด้วย 2 เทคโนโลยี คือ ZEEP Technology ช่วยลดการตกค้างของสาร BDDE ช่วยลดอาการแพ้ฟิลเลอร์ ทำให้ได้เนื้อฟิลเลอร์ที่มีอนุภาคเล็ก เนียน ละเอียด สามารถกลืนไปกับผิวได้ดี และ 2CM Technology เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการยึดเกาะของโมเลกุลฟิลเลอร์ ยืดหยุ่นสูง คงสภาพได้ดี

จึงทำให้ได้เนื้อฟิลเลอร์ที่มีโมเลกุลขนาดเล็ก นุ่ม ยืดหยุ่นสูง ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ และสามารถใช้เติมเต็มได้หลายบริเวณบนใบหน้า

Yvoire หรือ อีโวร์ ฟิลเลอร์ ผลิตด้วยเทคโนโลยี HICE Technology (HICE Cross-linking Technology) เอกสิทธิ์เฉพาะของบริษัท LG Chem ที่ทำให้โมเลกุลของฟิลเลอร์มีการเชื่อมพันธะติดกันแน่น สามารถเข้ากับเนื้อเยื่อในร่างกายของมนุษย์ได้เป็นอย่างดี เนื้อฟิลเลอร์มีความยืดหยุ่นสูง เรียบเนียน ไม่เป็นก้อนหลังฉีด สามารถคงผลลัพธ์ได้นาน และให้ความเป็นธรรมชาติสูง และเป็นยี่ห้อที่คลินิกความงามหลายคลินิกเลือกใช้

Ultra V Hyal Filler เป็นยี่ห้อที่ใช้เทคโนโลยี R Square Technology รวม 2 อนุภาคของ HA มารวมไว้ด้วยกัน ได้แก่ Monophasic HA ที่เด่นในเรื่องความหนืดสูง สามารถเกาะตัวและสามารถกระจายตัวได้ดี ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติหลังฉีด และ Biphasic HA มีจุดเด่นในเรื่องความยืดหยุ่นสูง สามารถคงตัวได้เป็นอย่างดี ทั้งยังให้ผลลัพธ์ที่ยาวนาน

ทำให้เป็น Muti-Layered Phasic Filler ส่งผลให้เป็นยี่ห้อฟิลเลอร์ที่มีประสิทธิภาพสูง สามารถยึดเกาะกับผิวและคงรูปได้ดี ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ

ถือว่าเป็นคำถามที่ตอบยาก และ ไม่สามารถตอบได้เลยในทันที ต้องอาศัยการประเมินปัญหาจากแพทย์อย่างละเอียด เพราะฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อมีคุณสมบัติ และขนาดของโมเลกุลที่เหมาะสมในการเติมแต่ละบริเวณที่แตกต่างกัน เพราะหากใช้ยี่ห้อที่มีความหนาแน่นสูง มาเติมในบริเวณร่องตื้น อาจส่งผลให้รู้สึกว่าฟิลเลอร์เป็นก้อนได้ หรือ หากใช้ยี่ห้อที่มีเนื้อเหลวเติมในบริเวณที่เป็นร่องลึก อาจทำให้เห็นผลลัพธ์ได้น้อยมาก หรืออาจไม่เห็นผลลัพธ์เลยก็ได้

ดังนั้น ควรปรึกษาแพทย์ หรือผู้เชี่ยวชาญทุกครั้งก่อนทำการรักษา เพื่อความปลอดภัย และความเหมาะสมในตำแหน่งที่ต้องการฉีด เพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจน และพึงพอใจหลังฉีดค่ะ