belotero vs juvederm ฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี ต่างกันไหมต้องดู

belotero vs juvederm

ปัจจุบันการเสริมความงามถือเป็นเรื่องที่เข้าถึงได้ง่าย เพราะนอกจากจะมีสถานความงามที่เพิ่มขึ้นแล้ว ยังมีการเสริมความงามหลากหลายชนิดมากยิ่งขึ้น อย่าง การฉีดฟิลเลอร์ ก็เรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่กำลังมาแรง ในตอนนี้ ไม่ว่าจะในหมู่สาว ๆ หรือหนุ่ม ๆ และปัจจุบันก็มีฟิลเลอร์หลายยี่ห้อให้เราได้เลือก สำหรับใครที่กำลังตัดสินใจจะฉีดฟิลเลอร์ Belotero Revive แต่กำลังสงสัยว่า ฟิลเลอร์ยอดฮิตอย่าง belotero vs juvederm แตกต่างกันอย่างไร ฉีดตัวไหนดีกว่ากัน วันนี้เราก็มาไขข้อสงสัย ให้สาว ๆ ที่อยากจะลองฉีดฟิลเลอร์ครั้งแรก

ฟิลเลอร์ คือ อะไร?

ก่อนที่จะไปรู้จักความแตกต่างของฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ เราก็ต้องมารู้จักกันก่อนว่า ฟิลเลอร์ นั้นคืออะไร ฟิลเลอร์ คือ สารที่มีในร่างกายของเรา ชื่อว่า ไฮยาลูโรนิกแอซิด (Hyaluronic Acid หรือ HA) สาร Hyaluronic Acid จะมีลักษณะเป็นของเหลว เส้นใยยาว ๆ ที่จะต้องผ่านกระบวนการเชื่อมต่อเส้นใยด้วยพันธะ (Crosslink) เพื่อให้เกิดเป็นตาข่ายวุ้น และเนื้อเจลฟิลเลอร์นิ่ม ๆ ก่อนฉีด ซึ่งสารนี้สามารถอุ้มน้ำได้มากถึง 1,000 เท่า สามารถสลายได้เอง ไม่เป็นอันตราย ฟิลเลอร์นั้นจะช่วยเติมความชุ่มชื้น และเพิ่มความเต่งตึงให้กับร่องลึก ริ้วรอยบนผิวได้ดี ทั้งยังสามารถเพิ่มความฉ่ำวาว ช่วยเพิ่มมิติให้กับใบหน้าได้

ค่าความอุ้มน้ำ (Water holding)

ค่าความอุ้มน้ำ ของฟิลเลอร์นั้นจะมีความแตกต่างกันไปในแต่ละยี่ห้อ ในตัวของฟิลเลอร์ที่มีค่าอุ้มน้ำที่สูง หากดื่มน้ำหลังฉีดมากจะช่วยเพิ่มความฟูให้กับฟิลเลอร์ เช่น ฉีด 1 CC จะสามารถฟูได้ถึง 1.5 CC ซึ่งฟิลเลอร์ที่มีค่าความอุ้มน้ำสูงไม่เหมาะสำหรับบริเวณใต้ตา เพราะจะทำให้บวมขึ้นชัดเจน เหมาะสำหรับบริเวณร่องแก้ม ริ้วรอย หรือขมับ

belotero vs juvederm

ทำความรู้จัก Belotero ฟิลเลอร์สีสันสดใสสุดฮิต

Belotero ฟิลเลอร์นำเข้าจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ที่กำลังมาแรงในตอนนี้ ผลิตด้วยเทคโนโลยีพิเศษเฉพาะ CPM Technology ซึ่งเป็นนวัตกรรมพิเศษที่มีเฉพาะยี่ห้อนี้เท่านั้น คุณสมบัติที่โดดเด่นของ Belotero นั้นคือความเรียบ กลมกลืนไปกับผิวได้เนียน และไม่เป็นก้อน ซึ่งมีหลายสูตรให้เลือก และสามารถคงผลลัพธ์อยู่ได้นาน 12 – 18 เดือน

Belotero Balance (สีส้ม)

Belotero Balance (สีส้ม)

ใครที่มีปัญหาริ้วรอยนั้น กล่องสีส้มจะช่วยเติมเต็มริ้วรอยร่องลึกถึงปานกลางให้ดูตื้นขึ้น และเต็มความชุ่มชื้นได้ผิวดูอวบอิ่มได้ มักใช้บริเวณ แก้มตอบ ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก รอยย่นระหว่างคิ้ว หรือปาก

Belotero Soft (สีเหลือง)

สำหรับใครที่อยากจะเติมความชุ่มชื้นให้ผิว หรือเติมเต็มร่องที่ไม่ลึกมาก อย่าง รอยตีนกา ริ้วรอยใต้หา หางตา หน้าผาก หรือบริเวณที่มีผิวไม่เรียบเนียน ซึ่งจุดเด่นของกล่องสีเหลืองจะมีโมเลกุลที่เล็ก ทำให้สามารถกลืนไปกับผิวได้ดีมากขึ้น

Belotero Volume (สีม่วง)

Belotero Volume (สีม่วง)

นอกจากจะช่วยเติมเต็มร่องเล็ก หรือร่องลึกนั้น Belotero ยังมีตัวช่วยแก้ปัญหาผิวที่มีเกิดปัญหาจากการทรุดตัวของกระดูกอีกด้วย เช่น บริเวณใต้ตา คาง โหนกแก้ม ขมับ โดยเนื้อฟิลเลอร์กล่องสีม่วงนี้จะมีความยืดหยุ่นสูง และมีความคงตัว ทำให้สามารถปรับรูปหน้าได้เป็นอย่างดี

Belotero Intense (สีชมพู)

Belotero Intense (สีชมพู)

ปัญหาริ้วรอยร่องลึกตามวัยที่มากขึ้นนั้น สามารถแก้ไขได้ด้วยกล่องสีชมพู เป็นฟิลเลอร์ที่มีความคงตัว มีความยืดหยุ่น ไม่เป็นก้อน สามารถฉีดเติมเต็มผิวหนัง หรือเนื้อเยื่อจากอายุที่มากขึ้น บริเวณร่องแก้ม

Belotero Revive (สีเขียว)

Belotero Revive กล่องสีเขียว จะช่วยในเรื่องของผิวหน้าให้มีความชุ่มชื้น อิ่มฟู และช่วยกระชับรูขุมขน เพราะในฟิลเลอร์ตัวนี้จะมีการผสมผสานระหว่างสารเติมเต็ม HA และ Glycerol ที่จะช่วยปรับให้ผิวเราเรียบเนียน ดูแลผิวของเราให้กระจ่างใส ฉ่ำวาว ดูโกลว์อย่างเป็นธรรมชาติ ใครที่สนใจฟิลเลอร์งานผิวสามารถรับคำปรึกษาที่ Wandee Clinic

ฟิลเลอร์ที่ผ่าน อย. มีกี่ยี่ห้อ ?

ปัจจุบันมีฟิลเลอร์ที่ผ่านการรับรองจาก อย. ในประเทศไทย แค่ชนิด Hyaluronic Acid (HA) เท่านั้น และมีฟิลเลอร์ทั้งหมด 9 ยี่ห้อ ได้แก่ Restylane, Juvederm, Belotero, Perfectha, Yvoire, Revanesse, Neuramis, Definisse และ e.p.t.q.

เจาะลึกฟิลเลอร์ Belotero Revive ฉีดตรงไหน?

Belotero Revive ฟิลเลอร์งานผิวกระจกดูโกวล์ ที่มาแรงที่สุดในตอนนี้ ตอบโจทย์ปัญหาผิวได้อย่างครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็น ฟื้นฟูผิวอย่างล้ำลึก บำรุงผิว เติมความชุ่มชื้น เพิ่มความฉ่ำวาว ปรับผิวให้แลดูกระจ่างใส ลดความหมองคล้ำของใบหน้า และรอยคล้ำใต้ตา ให้ผิวดูโกลว์สวยสุขภาพดี โดยฟิลเลอร์ Belotero Revive นิยมฉีดบริเวณหน้าแก้ม และบริเวณรอบ ๆ กรอบหน้า โดยจะฉีดตัวยาลงที่ผิวชั้นตื้น ในการฉีด 1 ครั้ง จะใช้ปริมาณตัวยา 2 cc ข้างละ 40 จุด รวมทั้งหมด 80 จุด เพื่อทำให้ได้ประสิทธิภาพมากที่สุด

Belotero Revive ฉีดกี่ครั้งถึงจะเห็นผล อยู่ได้นานแค่ไหน?

สาว ๆ ที่กำลังอยากลองฉีด Belotero Revive แต่มีข้อสงสัยว่า Belotero Revive ฉีดกี่ครั้งถึงจะได้ผล อยู่ได้นานแค่ไหน ? การฉีด Belotero Revive 1 ครั้ง จะสามารถเห็นผลลัพธ์ได้เลยทันที ผลลัพธ์จะค่อย ๆ ดีขึ้น ผิวจะดูอิ่มน้ำ โกลว์ ชุ่มชื้น รูขุมขนเล็กลง หน้าดูกระชับขึ้น และจะเริ่มเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนภายใน 2 สัปดาห์ และอยู่ได้นานถึง 9 เดือน หากใครต้องการผลลัพธ์ที่ยาวนานและคงทน แนะนำให้ฉีดต่อเนื่อง 3 – 4 ครั้ง ทั้งนี้ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวหน้าของแต่ละบุคคล

belotero vs juvederm

ฟิลเลอร์ Juvederm ดีอย่างไร

ในส่วนของฟิลเลอร์ยี่ห้อ Juvederm ถือเป็นอีกหนึ่งตัวที่ได้รับความนิยมสูงมาก และมีให้เลือกอย่างหลากหลายสูตรไม่แพ้กัน โดย Juvederm เป็นฟิลเลอร์ที่นำเข้าจากประเทศสหรัฐอเมริกา มีการผลิตมายาวนานกว่า 36 ปี โดยจุดเด่นของยี่ห้อนี้ คือ มีเทคโนโลยี hylacross และ vycross ที่เพิ่มความยืดหยุ่น คงตัวสูง ทำให้สามารถยกกระชับผิวได้เป็นอย่างดี ช่วยเพิ่มความเป็นธรรมชาติ และสามารถคงผลลัพธ์อยู่ได้นาน 12 – 18 เดือน

Juvederm Ultra Plus

Juvederm Ultra Plus

ฟิลเลอร์รุ่นนี้มีลักษณะพิเศษ คือ เนื้อนิ่ม และฟู จึงเหมาะสำหรับการแก้ปัญหาผิวที่มีร่องลึกจากอายุที่มากขึ้น เช่น บริเวณร่องแก้ม หรือคนที่ต้องการปรับรูปหน้าให้มีความเต่งตึง เช่น ริมฝีปาก

Juvederm Voluma

Juvederm Voluma

สำหรับใครกำลังมีปัญหาใต้ตา ร่องแก้ม หรือเพิ่มมิติบริเวณคาง Juvederm รุ่นนี้จะช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้น และเติมผิวให้เต็มได้อย่างเป็นธรรมชาติ เพราะมีโมเลกุลใหญ่ เนื้อแข็ง และมีความฟูระดับกลาง

Juvederm Volift

หากคุณมีปัญหาเรื่องผิวบอบบาง แต่อยากที่จะเติมผิวให้เต็มนั้น ฟิลเลอร์รุ่นนี้ถือเป็นรุ่นที่มีความละเอียดมากกว่าหลายรุ่น ทั้งยังมีเนื้อนิ่มเหมาะสำหรับคนที่ผิวบาง สามารถฉีดได้ทั้งบริเวณใต้ตา รอยตรงหน้าผาก หรือร่องมุมปาก ที่มีจะทำให้ผิวของเรานั้นเรียบเสมอกัน

Juvederm Volift

Juvederm Volbella

อีกหนึ่งฟิลเลอร์ที่มีเนื้อนุ่ม เรียบ โมเลกุลขนาดละเอียด ทำให้ฉีดบริเวณหน้าผาก เพื่อเพิ่มมิติได้อย่างธรรมชาติ ไม่เป็นก้อน

Juvederm Volbella

Juvederm Volite

เทรนที่มาแรงมากที่สุดสำหรับสาว ๆ ตอนนี้ก็ต้องหนีไม่พ้นการฉีดปาก เพิ่มความอวบอิ่ม ตัว  Juvederm Volite เป็นตัวที่ได้รับความนิยมมากในการฉีดปาก ใต้ตา หรือผิวภาพนอก เพราะมีความละเอียด ช่วยอุ้มน้ำให้ผิวชุ่มชื้น

Juvederm Volite

วิธีสังเกตฟิลเลอร์ปลอม

  • การสังเกตฟิลเลอร์ปลอมนั้น สามารถเช็คได้บนกล่อง โดยฟิลเลอร์แท้จะต้องมี ฉลากภาษาไทย ราคา และแจ้งวันหมดอายุที่ชัดเจน มี QR Code ระบุวันที่ผลิต วันหมดอายุ เลขที่อ้างอิงอย่างชัดเจน
  • หรือหากต้องการความแน่ใจ ก็สามารถโทรสอบถามกับบริษัทที่ผลิตได้เลย
  • ในส่วนของภายในกล่องนั้น ตัวผลิตภัณฑ์ หรือฟิลเลอร์จะต้องอยู่ในการบรรจุที่สะอาด ปลอดภัย ไม่หก และต้องมีเอกสารคู่มือภายประกอบ

สำหรับท่านใดที่จะเริ่มเข้าวงการฟิลเลอร์นั้น Belotero Revive vs juvederm ถือเป็น 2 ยี่ห้อดังที่มีมาตรฐานผ่านอย. ประเทศไทย ทั้งยังได้รับความนิยมสูงมาก ซึ่งทาง วันดี คลินิก ก็มีรีวิวฟิลเลอร์ให้ชม และมีให้เลือกหลายรุ่น สามารถเลือกแก้ไขปัญหาผิวหน้าได้อย่างตรงจุด

เช็ค filler แท้

Wandee clinic  คลินิกความงามที่ได้มาตรฐาน ครบวงจร พร้อมมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมีความยินดีที่จะให้บริการ และคอยให้คำปรึกษาแก่คุณลูกค้าทุกท่าน และแก้ปัญหาที่คุณต้องการไม่ว่าจะเป็น ฉีดฟิลเลอร์ , Filler ฉีดฟิลเลอร์พัทยา , ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี , รีวิวฟิลเลอร์ , คลินิกขอนแก่น , ศัลยกรรมขอนแก่น  คลินิกอุดร คลินิกพัทยา คลินิกเดอะสตรีทรัชดา ฉีดฟิลเลอร์พัทยา ฉีดฟิลเลอร์เดอะสตรีทรัชดา  เสริมจมูกที่ไหนดีเสริมจมูกโบท็อกBotox Hifu ,ไฮฟู่ อย่างเป็นกันเองค่ะ

สามารถสอบถามเพิ่มเติมที่:
เว็บไซต์ : www.wandeeclinic.com

สาขาของวันดีคลินิก คลินิกความงาม

เราพร้อมดูแลและให้บริการความงาม ทุกสาขาใกล้บ้านคุณ

สาขาขอนแก่น ตึกคอม

344/17 ซอยรื่นรมย์ ต.ในเมือง อ.เมือง ขอนแก่น 40000

สาขาขอนแก่น หอกาญ

193 70-71 ถ. กัลปพฤกษ์ ในเมือง เมือง ขอนแก่น 40000

สาขาอุดรธานี

75/20-21 ถนนทหาร ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมือง เทศบาลนครอุดรธานี 41000

สาขาเดอะสตรีท รัชดา

139 ศูนย์การค้า เดอะ สตรีท รัชดา ห้องเลขที่ 365 ชั้น 3 ร้าน Wandee clinic ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขต ดินแดง กรุงเทพมหานคร 10400

สาขาพัทยา

หมู่ที่ 12 315/300-301 อำเภอบางละมุง ชลบุรี 20150

สาขาโคราช

1119/8 ถ. สุรนารายณ์ ตำบล บ้านเกาะ นครราชสีมา

ใส่ความเห็น

หน้าแรก
รีวิว คลินิก
โปรโมชั่น
ติดต่อเรา