Oligio X เครื่องยกกระชับรุ่นใหม่ที่ถูกพัฒนาต่อจาก เครื่องยกกระชับ Oligio ที่หลายคนรู้จักในเรื่องการยกกระชับใบหน้า ยกผิวจากใบหน้าที่หย่อนคล้อย และกรอบหน้าไม่ชัด แต่หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าเครื่องยกกระชับทั้ง 2 รุ่น มีความแตกต่างกันอย่างไร บทความนี้ Wandee Clinic ขอนแก่น จะพาไปทำความรู้จักกับ Oligio X เครื่องยกกระชับใบหน้าแบบใหม่ ต่างจาก Oligio มั้ย

สารบัญ
Oligio X คืออะไร ทำไมถึงเป็นกระแส
Oligio X คือ เครื่องยกกระชับที่ถูกพัฒนาต่อจากเครื่อง Oligio ที่รักษาโดยการใช้พลังงานคลื่นวิทยุอย่าง Monopolar Radiofrequency (RF) เหมือนกัน ที่สามารถยิงได้ลงลึกมากขึ้น และช่วยลดความร้อนระหว่างทำได้ดีขึ้น
โดยสามารถยิงได้ถึงชั้นหนังแท้ (Dermis) และเนื้อเยื่อคอลลาเจนที่แทรกตัวในไขมัน เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน สลายไขมัน ทำให้ผิวมีความกระชับ ลดเลือนริ้วรอย ช่วยกระตุ้นให้ผิวมีความเต่งตึงโดยไม่ต้องผ่าตัด และไม่ต้องพักฟื้นนั่นเอง
Oligio X ทำงานอย่างไร?
หลักการทำงานของเครื่องยกกระชับ Oligio X จะทำงานคล้ายเครื่องยกกระชับอื่น ๆ คือ เมื่อยิงเข้าชั้นผิวตัวเครื่องจะมีการปล่อยความเย็น ในขณะที่คลื่นยิงเข้าสู่ชั้นผิวได้มากขึ้น และทำให้พลังงานลงสู่ชั้นผิวได้ลึกขึ้น
แต่ความโดดเด่นของเครื่องยกกระชับOligio X จะสามารถเลือกระดับในการยิงคือ Mode G และ Mode X ซึ่งเมื่อยิงคลื่นเข้าสู่ผิวแล้ว จะกระตุ้นการหดตัวของคอลลาเจนและไขมัน ทำให้ผิวหนังและไขมันหดตัว ส่งผลให้ผิวดูกระชับ ยกผิว ริ้วรอยลดเลือนลง ผิวยืดหยุ่นขึ้น
เครื่องยกกระชับ Oligio X ช่วยเรื่องอะไรบ้าง?
- ยกกระชับใบหน้าและกรอบหน้า เมื่ออายุเพิ่มขึ้น แก้มและกรอบหน้ามักเริ่มหย่อน เบลอ ไม่ชัดเหมือนเดิมเหมาะกับคนที่รู้สึกว่าหน้าดูหย่อนเล็กน้อย แต่ยังไม่อยากถึงขั้นดึงหน้าหรือทำหัตถการที่ดูแรงเกินไป
- กระตุ้นคอลลาเจน ผิวแน่น ฟู เด้ง คลื่น RF จะกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวดูแน่นขึ้น ดูกระชับขึ้น
- ลดความหย่อนคล้อยบริเวณแก้ม เหนียง คอ ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ กระชับ เต่งตึงขึ้น
- ผิวเรียบเนียนขึ้น รูขุมขนกระชับ เหมาะกับคนที่ไม่ได้มีปัญหาแค่ความหย่อน แต่ยังรู้สึกว่าผิวดูหมอง ไม่เนียน รูขุมขนกว้าง
โหมดการทำงานที่เหนือกว่าของ Oligio X
โหมดการทำงานของเครื่อง Oligio X มี 2 โหมด ได้แก่
G Mode
เป็นโหมดที่มีความคล้ายคลึงกับเครื่อง Oligio เดิม คือเป็นโหมดอ่อนโยนที่ใช้สำหรับผิวชั้นบน เหมาะสำหรับผู้ที่มีปริมาณไขมันไม่ได้เยอะมาก และต้องการเน้นกระชับที่ผิวบริเวณด้านบนเป็นหลัก
ขอบคุณข้อมูลจาก WONTECH ASIA CO., LTD
X Mode
เป็นโหมดที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีปริมาณไขมันค่อนข้างเยอะ ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยมาก ๆ เพราะเป็นโหมดที่แรงกว่า และลงสู่ชั้นผิวได้ลึก โดยสามารถส่งพลังงานได้ถึงชั้นหนังแท้ และเห็นผลชัดเจนกว่า โหมด G
ขอบคุณข้อมูลจากบริษัท WONTECH ASIA CO., LTD
เปรียบเทียบ Oligio X กับ Oligio รุ่นเดิม ต่างกันอย่างไร
👉 ระบบความเย็น
ทั้งเครื่องรุ่นเก่า และรุ่นใหม่ มีระบบปล่อยความเย็นเช่นเดียวกัน แต่จะมีความแตกต่างกัน ดังนี้
โปรแกรมเครื่อง Oligio รุ่นเดิม
มีระบบปล่อยความเย็น โดยจะสามารถปล่อยได้ทั้งหมด 4 Pulse เพื่อเป็นการปกป้องผิวชั้นนอก ทำให้รู้สึกอุ่นเพียงเล็กน้อยขณะปล่อยพลังงาน RF ลงไปที่ชั้นผิว และมีระบบตรวจจับอุณหภูมิขณะทำ
โปรแกรมเครื่อง Oligio X
มีการพัฒนาให้มีการปล่อยระบบความเย็นได้เพิ่มมากขึ้นถึง 2.25 เท่า โดยสามารถปล่อยได้มากที่สุดถึง 11 Pulse ทำให้ผิวชั้นนอกรู้สึกถึงความร้อนได้น้อยมาก
👉 การปล่อยพลังงาน
การปล่อยพลังงานของเครื่อง เหมือนกันคือปล่อยพลังงานคลื่น Monopolar RF แต่จะมีความแตกต่างกัน ดังนี้
โปรแกรมเครื่อง Oligio รุ่นเดิม
เป็นการปล่อยพลังงานแบบโหมดเดียว (Single Mode) โดยจะเป็นการปล่อยพลังงานสู่ชั้นหนังแท้ เพื่อกระตุ้นคอลลาเจน อีลาสติน และกระตุ้นการหดตัวของชั้นไขมัน
โปรแกรมเครื่อง Oligio X
เป็นการปล่อยพลังงานโหมดคู่ (Dual Mode RF) ที่ปล่อยพลังงานได้ทั้งผิวชั้นตื้นและผิวชั้นลึก และสามารถปล่อยพลังงานได้แรงและลึกกว่ารุ่นเก่า โดยมีโหมดให้เลือกทั้งหมด 2 โหมด คือ G Mode และ X Mode
👉 ความรู้สึกขณะทำ
เนื่องจากมีความแตกต่างกันในเรื่องระบบความเย็น จึงทำให้รู้สึกแต่งต่างกันดังนี้
โปรแกรมเครื่อง Oligio รุ่นเดิม
ระหว่างทำจะรู้สึกอุ่นหรือร้อนในบริเวณที่ผิวบาง โดยจะมีระบบ Vibration ทำให้รู้สึกสบาย และช่วยลดการระคายเคืองผิวระหว่างทำ
โปรแกรมเครื่อง Oligio X
เนื่องจากมีการพัฒนาระบบปล่อยความเย็นให้สามารถปล่อยความเย็นได้มากขึ้น ทำให้ระหว่างทำหัตถการ จะรู้สึกถึงความร้อนได้น้อยมาก และไม่เกิดอาการแสบร้อนขณะทำ
👉 ผลลัพธ์หลังทำและระยะเวลาการคงผลลัพธ์
เนื่องจากมีการพัฒนาเทคโนโลยีให้สามารถยิงได้ลงลึกกว่าเดิม ทำให้ผลลัพธ์มีความแตกต่างกัน
โปรแกรมเครื่อง Oligio รุ่นเดิม
หลังทำจะรู้สึกถึงความแตกต่างประมาณ 20-30% และสามารถคงผลลัพธ์ได้ประมาณ 4-6 เดือน
โปรแกรมเครื่อง Oligio X
หลังทำจะรู้สึกถึงความแตกต่างประมาณ 25-30% และสามารถคงผลลัพธ์ได้ประมาณ 4-9 เดือน
👉 ความเหมาะสมของการรักษา
การรักษาโดยเครื่องยกกระชับอย่าง Oligio และ Oligio X มีความแตกต่างกันเพียงเล็กหน้อย ขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละบุคคล ดังนี้
โปรแกรมเครื่อง Oligio รุ่นเดิม
ผู้ที่มีปัญหาไขมันบริเวณใบหน้า แก้ม เหนียง ไม่มาก และเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปรับสภาพผิวแบบโดยรวม ต้องการยกกระชับเล็กน้อย
โปรแกรมเครื่อง Oligio X
เหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันบริเวณใบหน้า มีริ้วรอยค่อนข้างเยอะ ต้องการผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดกว่า และมีริ้วรอย หย่อนคล้อยมากกว่า
ขอบคุณข้อมูลจากบริษัท WONTECH ASIA CO., LTD
Oligio X vs Thermage vs Ultraformer III เลือกเครื่องไหนดี?
Oligio X
Oligio X เป็นเครื่อง คลื่นวิทยุ (RF) รุ่นใหม่ที่พัฒนาจาก Oligio เดิม เน้น ยกกระชับ / กระตุ้นคอลลาเจน / กระชับรูขุมขน / ผิวฟูเนียน มีระดับ Cooling อยู่ที่ 11 Pulse
จุดเด่น
- เน้นผิวชั้นตื้น-กลาง ทำให้ ผิวดูแน่น ฟู เฟิร์ม รูขุมขนดีขึ้น
- ความร้อนค่อนข้างสม่ำเสมอ
- โดยรวมมักจะ เจ็บน้อยกว่า HIFU / Thermage รุ่นเก่า ๆ (แต่ก็ขึ้นกับพลังงานที่หมอใช้)
เหมาะกับ
- ผู้ที่ผิวเริ่มหย่อนนิด ๆ – ปานกลาง
- ผู้ที่กังวลเรื่อง รูขุมขน / ผิวไม่เรียบ / ผิวดูไม่แน่น
- ผู้ที่ไม่อยากทนเจ็บมาก หรือกลัวการพักฟื้น
Thermage
Thermage เป็นเครื่อง คลื่นวิทยุ (RF) เหมือนกัน แต่เป็นแบรนด์ที่อยู่มานาน มีระดับ Cooling อยู่ที่ 5 Pulse เหมาะสำหรับผู้ที่ผิวย้วย ไขมันเยอะ และผู้ที่ผิวไม่กระชับ
จุดเด่น
- เน้นยกกระชับทั้งใบหน้า / กรอบหน้า / หางตา / ใต้ตา / คอ
- พลังงานค่อนข้างสูง ถ้าใช้จำนวน shot และ setting เหมาะสม ผลเรื่องความกระชับชัด
- เห็นผลเรื่อย ๆ ชัดสุดประมาณ 3-6 เดือน และอยู่ได้ราว ๆ 1 ปี
เหมาะกับ
- ผู้ที่อายุเริ่มมากขึ้น ผิวหย่อนชัดขึ้น
- ผู้ที่รับได้กับความรู้สึกเจ็บระดับหนึ่ง และมีงบประมาณสูง
Ultraformer III
เครื่องจากเกาหลี ที่เป็นเครื่องที่ใช้คลื่นเสียง MMFU (Micro & Macro Focused Ultrasound) ทำงานที่ ชั้นลึก (SMAS) ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับที่หมอศัลย์ดึงหน้า
จุดเด่น
- ยกหน้า ดึงกรอบหน้า ยกแก้ม ลดเหนียงได้ดี
- เห็นผลยกกระชับค่อนข้างชัด โดยเฉพาะกรอบหน้า
- ความเจ็บ ปานกลาง-มาก แล้วแต่คน
เหมาะกับ
- ผู้ที่โครงหน้าหย่อน เริ่มมี แก้มตก กรอบหน้าไม่ชัด มีเหนียง
- ผู้ที่ต้องการเน้น ยกหน้า มากกว่าเรื่องผิวละเอียด
ใครบ้างที่เหมาะกับ Oligio X
โปรแกรมเครื่องยกกระชับ เป็นโปรแกรมที่ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้น จึงทำให้เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาต่าง ๆ บริเวณใบหน้า ดังนี้
- ผู้ที่มีไขมันบริเวณใบหน้า แก้ม เหนียง
- ผู้ที่มีริ้วรอยเล็ก ๆ ขาดความยืดหยุ่น
- ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ
- ผู้ที่มีปัญหาคิ้วตก หางตาตก รวมถึงผู้ที่มีรอยตีนกา
- ผู้ที่ผิวไม่เรียบเนียน มีปัญหารูขุมขนกว้าง
- ผู้ที่ไม่ต้องการผ่าตัด ไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้น
การดูแลตัวเองหลังทำเครื่องยกกระชับ Oligio X และข้อควรระวัง
การดูแลหลังทำหัตถการอย่างเครื่องยกกระชับ ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน และนาน ซึ่งข้อควรปฏิบัติมีดังนี้
- หลีกเลี่ยงการโดนความร้อนจัด ๆ อย่างเช่น การซาวด์น่า เลเซอร์ การอาบน้ำอุ่นที่มีอุณหภูมิสูงจัด หลังทำ 1 สัปดาห์
- หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่
- เลี่ยงการโดนแสงแดดจัด และทาครีมกนแดดสม่ำเสมอ
FAQ คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเครื่องยกกระชับ
เครื่องยกกระชับเหมาะกับใคร?
เครื่องยกกระชับเหมาะกับคนที่เริ่มมีปัญหาใบหน้าหย่อนคล้อย แก้มตก กรอบหน้าไม่ชัด รูขุมขนกว้าง ผิวดูไม่แน่น รวมถึงคนที่อยากชะลอริ้วรอยตั้งแต่อายุยังไม่เยอะ แต่ยังไม่อยากผ่าตัดดึงหน้า หรือทำศัลยกรรมใหญ่ ๆ ทั้งนี้ควรให้แพทย์ประเมินก่อนว่าโครงหน้าและสภาพผิวเหมาะกับเครื่องแบบไหน
ทำเครื่องยกกระชับแล้วเห็นผลเมื่อไหร่? อยู่ได้นานแค่ไหน?
ส่วนใหญ่จะเห็นผลทันทีหลังทำ เช่น รู้สึกว่าผิวตึงขึ้นเล็กน้อย หลังจากนั้นคอลลาเจนจะถูกกระตุ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผลชัดขึ้นในช่วง 1-3 เดือน และอยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิดเครื่อง การดูแลตัวเอง อายุ และการดูแลของแต่ละคน
ทำเครื่องยกกระชับเจ็บไหม? ต้องพักฟื้นหรือเปล่า?
ระดับความรู้สึกเจ็บขึ้นกับชนิดของเครื่อง การตั้งค่าพลังงาน และความทนของแต่ละคน บางเครื่องรู้สึกเป็นแค่ความร้อน ๆ ตึง ๆ บางเครื่องจะจิ๊ดมากขึ้นเล็กน้อย แต่ส่วนใหญ่สามารถทายาชาช่วยได้ และหลังทำมักไม่ต้องพักฟื้น ไม่มีแผลเปิด อาจมีรอยแดงหรือบวมเล็กน้อยหายเองภายใน 1-3 วัน
อายุเท่าไหร่ถึงจะเริ่มทำเครื่องยกกระชับได้?
โดยทั่วไปเริ่มทำได้ตั้งแต่อายุประมาณ 25-30 ปีขึ้นไป ในคนที่เริ่มมีปัญหาผิวหย่อนเล็กน้อย
แต่ถ้าผิวหย่อนมาก ๆ หรืออายุเยอะแล้ว แพทย์อาจแนะนำให้ใช้หลายวิธีร่วมกัน เช่น เครื่องยกกระชับ, ฟิลเลอร์,ไหม,ศัลยกรรม ขึ้นกับการประเมินรายบุคคล
ควรทำบ่อยแค่ไหน? ต้องเตรียมตัวยังไงก่อนทำ?
ส่วนใหญ่ทำปีละ 1-2 ครั้ง แล้วแต่ชนิดของเครื่องและความหย่อนของผิว บางเคสแพทย์อาจนัดทำซ้ำทุก 6 เดือน เพื่อคงผลลัพธ์
ก่อนทำมักไม่ต้องเตรียมตัวเยอะ เพียงหลีกเลี่ยงการเลเซอร์แรง ๆ หรือทรีตเมนต์ที่ระคายเคืองผิวใกล้วันทำ งดแต่งหน้าหนา ๆ และแจ้งแพทย์เรื่องโรคประจำตัว ยา อาหารเสริมที่ทานอยู่ เช่น แอสไพริน วิตามินอี น้ำมันปลา ฯลฯ เพื่อความปลอดภัย
อยากรักษาใบหน้าด้วยเครื่องยกกระชับ ขอนแก่น ต้องที่ Wandee Clinic
หากคุณกำลังมองหาวิธีดูแลและยกกระชับใบหน้าให้ดูอ่อนเยาว์อย่างปลอดภัยและได้มาตรฐาน การเลือกทำเครื่องยกกระชับที่ Wandee Clinic ถือเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ทั้งในแง่ผลลัพธ์และความสบายใจ เพราะมีทีมแพทย์ คอยประเมินปัญหาและออกแบบการรักษาให้เหมาะกับโครงหน้าและสภาพผิวของแต่ละคนโดยเฉพาะ เลือกใช้เครื่องยกกระชับแท้ที่มีมาตรฐาน รับรองโดยบริษัทผู้นำเข้าอย่างถูกต้อง พร้อมอธิบายขั้นตอน ผลลัพธ์ การดูแลหลังทำอย่างถูกต้อง ทำให้มีความมั่นใจ ปลอดภัย และผลลัพธ์ที่ชัดเจน
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเข้ามาปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของ Wandee Clinic ขอนแก่น เพื่อประเมินปัญหาผิว หรือแอดไลน์ @WandeeClinic เพื่อสอบถามข้อมูล หรือสามารถดูรีวิวได้เลยค่ะ
สาขาของวันดีคลินิก คลินิกความงาม
เราพร้อมดูแลและให้บริการความงาม ทุกสาขาใกล้บ้านคุณ
Wandee Clinic ( วันดีคลินิก ฟิลเลอร์ ขอนแก่น )
344/17 ซอยรื่นรมย์ ต.ในเมือง อ.เมือง ขอนแก่น 40000
YouTube: wandee clinic
Wandee Clinic (วันดีคลินิก ฟิลเลอร์ เสริมจมูก สาขาขอนแก่น หอกาญ)
193 70-71 ถ. กัลปพฤกษ์ ในเมือง เมือง ขอนแก่น 40000
IG: wandeeclinic.kku
YouTube: wandee clinic
Wandee Clinic ( วันดีคลินิก ฟิลเลอร์ อุดรธานี )
75/20-21 ถนนทหาร ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมือง เทศบาลนครอุดรธานี 41000
Wandee Clinic (วันดีคลินิก ฟิลเลอร์ พัทยา ชลบุรี)
หมู่ที่ 12 315/300-301 อำเภอบางละมุง ชลบุรี 20150
Wandee Clinic (วันดีคลินิก ฟิลเลอร์ โคราช)
1119/8 ถ. สุรนารายณ์ ตำบล บ้านเกาะ นครราชสีมา
Wandee Clinic ( วันดีคลินิก ฟิลเลอร์ ร้อยเอ็ด )
469 ถ. ผดุงพานิช ตำบล ในเมือง เมือง ร้อยเอ็ด 45000
295 297 ถนนนิตโย ตำบล ในเมือง อำเภอเมืองนครพนม นครพนม 48000
Tel: 092 652 2229
IG: wandeeclinic.npm
YouTube: wandee clinic
