Oligio นวัตกรรมยกกระชับหน้าและสลายไขมันจากประเทศเกาหลี ด้วยคลื่นวิทยุ ที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบัน เพราะเป็นหัตถการที่ใช้เวลาทำน้อย และไม่ต้องเตรียมตัวพักฟื้นนาน ทั้งยังให้ผลลัพธ์หลังทำที่น่าพึงพอใจ ทำให้เป็นอีกนวัตกรรมที่น่าจับตามองในวงการความงาม บทความนี้ Wandee Clinic (วันดี คลินิก) จะพาไปทำความรู้จักกับ ยกกระชับหน้าอย่างมือโปรด้วย Oligio ตอบโจทย์ปัญหาผิวหย่อน ให้เต่งตึง

หลักการทำงานของเครื่อง Oligio

หลักการของ Monopolar RF คือจะอาศัยการสั่นของกระแสไฟฟ้าจากการปล่อยคลื่นวิทยุความถี่สูง คือ 6.78 MHz ทำให้เกิดการชนกันของโมเลกุลที่มีประจุและไอออน แล้วจะเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อนลึกที่มีอุณหภูมิประมาณ 40-60 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่เหมาะสำหรับการกระตุ้นให้ผิวมีการสร้างคอลลาเจนและทำให้ผิวมีการยกกระชับขึ้น

เครื่อง โอลิจิโอ เด่นในเรื่องอะไร

• เป็นเครื่องที่ช่วยแก้ได้ 2 ปัญหา คือ ปัญหาผิวหย่อนคล้อย และปัญหาไขมันสะสม 
• เป็นเครื่องที่ใช้คลื่น 6.78 MHz เป็นคลื่นที่มีความถี่ต่ำและมีความคงที่ประมาณ 40-60 องศา ซึ่งเป็นความร้อนที่เหมาะกับการกระตุ้นผิว
• เครื่องมีเซนเซอร์สำหรับตรวจจับอุณหภูมิ โดยหากมีอุณหภูมิที่สูงเกินไปเครื่องจะหยุดโดยอัตโนมัติ ทำให้ผิวไม่เกิดความแสบร้อนหลังทำ
• มีระบบปล่อยความเย็นให้ผิวชั้นนอกสุด ทำให้ไม่รู้สึกแสบร้อนสะสมขณะทำ
• ใช้หัวยิงเจนใหม่ ไม่มีข้อจำกัดเรื่องจำนวนช็อตและเรื่องเวลา
• เป็นนวัตกรรมใหม่จากประเทศเกาหลี ผ่านการรับรองจาก FDA ในเกาหลี อเมริกา ยุโรป และไทย
• ใช้เวลาทำเพียง 20-30 นาที
• สามารถเห็นผลหลังทำได้ทันที 20%

• Pain Relief มีระบบสั่น ทำให้ลดอาการระคายเคือง ทำให้รู้สึกสบายผิวระหว่างทำ และมีระบบ Pre & Post spray cooling เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้อุณหภูมิใต้ผิวหนังมีความร้อนมากเกินไป
• Safe Treatment มีระบบตรวจจับอุณหภูมิขณะทำ หากผิวชั้นบนมีอุณหภูมิสูงเกิน 43 องศาเซลเซียส จะมีการแจ้งเตือนและตัดการปล่อยพลังงานทันที และมีระบบตรวจจับแรงกดผิวและระบบการวัดค่าความต่างศักย์ของผิว ทำให้ระบบพลังงานมีความสม่ำเสมอ 
• Faster treatment Tip ขนาด 4×4 Cm.  และมีโปรแกรม Auto mode ทำให้สามารถปล่อยพลังได้ต่อเนื่องตามช่วงเวลาที่ได้ตั้งค่าไว้
• Convenience Treatment มีทั้งหมด 3 โหมดในการปล่อยพลังงาน คือ Single, Double และ Auto Mode

หนุ่มสาวชาว ขอนแก่น ใครบ้างที่ควรทำ Oligio

สำหรับหนุ่มสาวชาวขอนแก่น ที่อยากแก้ปัญหาด้วย Oligio แต่ไม่รู้ว่าใครควรทำและเหมาะกับใครบ้าง เรามีคำตอบให้ ดังนี้ค่ะ 

• ผู้ที่มีปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อย ต้องการให้ผิวกระชับขึ้น 
• ผู้ที่มีริ้วรอยร่องแก้มลึก
• ผู้ที่กรอบหน้าไม่ชัด ต้องการให้กรอบหน้าดูชัดขึ้น 
• ผู้ที่มีไขมันสะสม 
• ผู้ที่มีปัญหาเนื้อแก้มหรือมีเหนียงเยอะ
• ผู้ที่ต้องการยกกระชับเปลือกตา เปลือกตาเริ่มตก หนังตาตก 
• ผู้ที่มีปัญหารูขุมขนกว้าง 
• ผู้ที่ต้องการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ให้ผิวแข็งแรง ดูฟูขึ้น 
• ผู้ที่มุมปากเริ่มตก
• ผู้ที่มีริ้วรอยระยะเริ่มต้น

Ultraformer กับ โอลิจิโอ ต่างกันยังไง

Ultraformer เป็นนวัตกรรมยกกระชับด้วยคลื่นอัลตร้าซาวน์ที่สามารถลงลึกได้ถึงชั้น SMAS แต่ขาดความแม่นยำในการยิง ทำให้ประสิทธิภาพไม่แน่นอน และอาจรู้สึกเจ็บเล็กน้อยขณะทำ แต่ โอริจิโอ จะเน้นคลื่นลงไปที่ชั้นหลังแท้และชั้นไขมัน จะไม่รู้สึกเจ็บและมีระบบทำความเย็นทำให้รู้สึกสบายมากกว่าขณะทำ

โอลิจิโอ กับ Thermage ต่างกันอย่างไร

ทั้งสองเครื่องมีการใช้พลังงานเดียวกัน แต่หัวเครื่องของ Thermage มีเวลาจำกัดอยู่ที่ 1 ชั่วโมง ซึ่งเมื่อเปิดใช้แล้วต้องใช้ให้หมด และมีค่าพลังงานที่สูงกว่าส่งผลให้เกิดอุณหภูมิใต้ผิวมากกว่า ทำให้ต้องมีการทายาชาก่อนทำ เพื่อลดอาการเจ็บขณะทำ แต่โอริจิโอ เป็นนวัตกรรมที่ไม่จำกัดเรื่องเวลา สามารถปล่อยจำนวนช็อตได้อย่างต่อเนื่อง และไม่จำเป็นต้องทายาชาก่อนทำ เพราะมีค่าพลังงานที่ต่ำกว่า 

แต่ทั้งนี้ทั้งสองเครื่องมีระบบทำความเย็น เพื่อลดความร้อนของผิวหนังได้

โอลิจิโอ ต่างกับ Ulthera ยังไง

คลื่นพลังงานของ Ulthera สามารถลงลึกถึงชั้นผิวหนังแท้ (SMAS) แต่โอริจิโอ สามารถลงลึกถึงชั้นไขมันใต้ผิว ทำให้ช่วยลดไขมันส่วนเกินได้ และทั้งสองเครื่องให้ค่าพลังงานความร้อนที่แตกต่างกันโดย Ulthera ใช้คลื่นความร้อนอยู่ที่ 60-70 องศาเซลเซียส ส่วนโอริจิโอ ใช้คลื่นความร้อนอยู่ที่ 40-60 องศาเซลเซียส เท่านั้น

Botox กับ โอลิจิโอ อะไรดีกว่ากัน

ทั้งสองหัตถการเป็นตัวช่วยที่ทำให้หน้าดูกระชับ ดูอ่อนเยาว์ขึ้น แต่ทั้งสองมีการทำงานในลักษณะที่แตกต่างกัน โดยโบท็อกซ์ จะมีจุดเด่นในเรื่องการลดริ้วรอย ปรับรูปหน้าด้วยสาร Botulinum Toxin ที่มีหน้าที่ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว ทำให้สามารถลดริ้วรอยจากการขยับใบหน้าได้ เช่น บริเวณหน้าผาก หรือรอยตีนกา ส่วนเครื่องโอริจิโอ ใช้คลื่นวิทยุความถี่สูงเพื่อกระตุ้นคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นหนังแท้ และเข้าช่วยลดไขมันสะมสในชั้นไขมัน ทำให้ได้ผลลัพธ์คือ หน้าเรียวเล็กลงทันทีหลังทำ ผิวมีความเฟิร์มขึ้น

การเตรียมตัวก่อนทำ Oligio

• พักผิวให้พร้อม โดยให้หลีกเลี่ยงการทำเลเซอร์หรือหัตถการอื่นในบริเวณที่จะทำ โอริจิโอ อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์
• ดื่มน้ำให้เพียงพอ อย่างน้อย 1.5-2 ลิตรต่อวันเพื่อเป็นการให้คอลลาเจนถูกกระตุ้นได้ดีขึ้น
• หลีกเลี่ยงการโดนแดดจัดเป็นเวลานาน หรือควรทาครีมกันแดดเป็นประจำ ก่อนทำ 2-3 วัน
• พักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อช่วยให้ผิวฟื้นตัวเร็วและเห็นผลลัพธ์ได้ชัดเจนมากขึ้น
• ทำความสะอาดบริเวณที่ต้องการรักษา และงดใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีกรดแรง ๆ (AHA, BHA, Retinol) ก่อนทำ 24 ชม.

ดูแลผิวหลังทำ โอริจิโอ อย่างไร

• หลีกเลี่ยงความร้อน อย่างการซาวด์น่า การนวดหน้าด้วยความร้อน รวมไปถึงการรักษาหน้าด้วยความร้อน เช่น เลเซอร์ หลังทำประมาณ 1 สัปดาห์
• หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดจัด และทาครีมกันแดดเป็นประจำ 
• หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่

ทำ โอลิจิโอ ที่ไหนดี

• เลือกคลินิกที่ใช้เครื่องแท้ ผ่านมาตรฐาน ผ่านการรับรองจาก อย. สามารถขอเช็คเครื่องได้
• แพทย์ต้องมีประสบการณ์ และให้คำแนะนำตรงจุด สามารถให้คำแนะนำเกี่ยวกับหัตถการนั้น ๆ ได้
• คลินิกมีมาตรฐานความสะอาด ปลอดภัย ได้รับใบอนุญาตเปิดให้บริการที่ถูกต้อง มีบรรยากาศดี มีความสะอาดและเครื่องมือผ่านการฆ่าเชื้อ
• มีราคาที่เหมาะสม ไม่ถูกหรือแพงเกินไป เพราะอาจเป็นการใช้เครื่องที่ไม่ได้มาตรฐานได้
• มีรีวิวจากลูกค้าจริง เช็ครีวิวจากคนที่เคยทำจริง เช่น รีวิวจาก Facebook, Google Review หรือเว็บไซต์ของคลินิก โดยใช้คำรีวิวที่ไม่เกินจริงจนเกินไป

อยากหน้ายกกระชับต้องที่ Wandee Clinic

ถ้ารู้สึกว่าผิวหน้าเริ่มหย่อนคล้อย กรอบหน้าไม่ชัด หรือมีริ้วรอยบาง ๆ ที่ทำให้ดูแก่ก่อนวัย ต้องรักษาที่ Wandee Clinic เพราะเราพร้อมให้บริการแบบครบวงจร พร้อมเทคนิคเฉพาะโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ช่วยให้คุณได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเข้ามาปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของ Wandee Clinic เพื่อประเมินปัญหาผิว หรือแอดไลน์ @WandeeClinic เพื่อสอบถามข้อมูล หรือสามารถดูรีวิวได้เลยค่ะ