5 เรื่องโบท็อก รู้ไว้ไม่โป๊ะ แต่เป๊ะมาก และการปฏิบัติตัวเพื่อให้โบท็อกอยู่ได้นานขึ้น

โบท็อกคืออะไร

การเสริมความงามในปัจจุบันนี้มีหลากหลายรูปแบบมากขึ้นเนื่องจากนวัตกรรมต่างๆและพัฒนาจนทำให้เกิดเทคโนโลยีมากมายโดยเฉพาะอย่างยิ่งเทคโนโลยีทางการแพทย์ซึ่งดูท่าทางว่าจะไม่มีวันหยุดยั้งในการพัฒนาสิ่งที่เราจะเห็นได้อย่างชัดเจนก็คือในวงการศัลยกรรมที่ปัจจุบันนี้ ถึงแม้ว่าจะยังไม่มีสิ่งใหม่ๆเกิดขึ้นแต่ก็ยังคงมีการพัฒนารูปแบบการศัลยกรรมที่มีอยู่เดิมให้มีประสิทธิภาพและมีคุณภาพมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่นเรื่องของการฉีดโบท็อก โบท็อกคืออะไร ก็ได้มีการคิดค้นโบท็อกหลากหลายประเภทขึ้นมาให้สาวๆได้เลือกใช้กันซึ่งนับว่าเป็นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการในเรื่องความสวยความงามสำหรับยุคนี้ได้เป็นอย่างดี และแน่นอนว่าวันนี้ เราจะพาไปรู้จักกับเรื่องราวต่างๆของโบท็อกที่รับรองได้เลยว่าเมื่อเรารู้เรื่องเหล่านี้แล้วจะเป็นประโยชน์ก่อนฉีดจะตัดสินใจได้ดีขึ้นว่าควรหรือไม่ควรเลือกและไม่เลือกทำอะไรสำหรับการฉีดโบท็อก โดยเฉพาะอย่างยิ่งขั้นตอนของการปฏิบัติตัวเพื่อให้โบท็อกมีอายุยาวนานมากขึ้น

1.) โบท็อกคืออะไร

โบทรูลินั่มท็อกซิน หรือที่เรารู้จักกันในชื่อของโบท็อก ซึ่งเป็นสารเติมเต็มในรูปแบบโปรตีน ใช้ฉีดบริเวณกล้ามเนื้อ เพื่อปรับสภาพให้กล้ามเนื้อนั้นเล็กลงจึงมีผลทำให้ใบหน้าของเราดูเรียวลงได้รูปมากขึ้นนั่นเอง

ลักษณะทางกายภาพของ Photoshop จะเป็นโปรตีนน้ำใสๆหลังจากที่มีการฉีดเข้าสู่บริเวณกล้ามเนื้อในส่วนต่างๆแล้วมันจะแยกออกเป็น 2 ส่วน

  • ส่วนแรกจะถูกดูดซึมเข้าไปเก็บไว้ในเซลล์ประสาท แล้วจะออกฤทธิ์ได้ดีถ้าอยู่ในเส้นประสาทเท่านั้นซึ่งแน่นอนว่าถ้าการฉีดโบท็อกเข้าไปที่บริเวณกล้ามเนื้อโดยที่มีปริมาณความเข้มข้นสูงโบท็อกก็จะมีอายุอยู่ได้นานขึ้น
  • ส่วนถัดมาจะปลิวไปตามกระแสเลือดหลังจากการฉีดโดยใช้ระยะเวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมงและมันจะถูกขับออกไปในที่สุดโดยที่จะไม่มีผลข้างเคียงต่อเซลล์อื่นๆของร่างกายหรือจะเรียกว่า นี่คือส่วนที่เราจะเสียไปฟรีแบบไม่มีประโยชน์ใดๆ

ดังนั้นวิธีการที่จะทำให้โบท็อกมีอายุยาวนานมากที่สุดจากทั้ง 2 กรณีก็คือการปฏิบัติตัวก่อนฉีดโบท็อกเพื่อที่จะทำให้เกิดโบท็อกปลิวน้อยที่สุดและเพื่อให้ส่วนแรกที่ถูกดูดซึมเข้าไปมีความเข้มข้นขึ้นและอยู่ได้นานกว่าปกตินั่นเอง โบท็อกคืออะไร โดยสิ่งที่เราจะต้องทำมีดังนี้

2.) เลือกใช้ Botox แท้

ในท้องตลาดปัจจุบันสิ่งที่เราต้องระวังคือโบท็อกปลอมซึ่งมีการผลิตออกมาวางจำหน่ายเป็นจำนวนมากในราคาถูกและหลายคนก็มักจะเลิกใช้เนื่องจากเห็นราคาที่แตกต่างแต่การใช้ Botox แท้จะมีประโยชน์มากกว่าเนื่องจากมีการกระจายตัวต่ำ เวลาที่ฉีดเข้าไปบริเวณไหนโบท็อกก็จะอยู่ที่บริเวณนั้นไม่ปลิวหายไปไหนหรือเรียกว่าลดโอกาสในการปลิวหายไปให้เกิดขึ้นน้อยลง ดังนั้นทุกครั้งก่อนเลือกใช้บริการคลินิกเสริมความงามใดควรจะสังเกตโบท็อกที่มีให้บริการ และหลังจากการฉีดควรจะขอกล่องและขวด Botox นั้นกลับบ้านด้วยเพื่อเก็บไว้ตรวจสอบในภายหลัง

3.) การผสมน้ำเกลือในโบท็อก

การฉีดโบท็อกจำเป็นต้องมีการผสมน้ำเกลือลงไป เพื่อดูดออกมาฉีด เนื่องจาก โดยปกติแล้ว Botox แท้ทุกยี่ห้อจะมาในรูปแบบของสูญญากาศแห้งๆแบบไม่มีน้ำดังนั้นเราจึงต้องอาศัยน้ำเกลือดังกล่าวนั้นเองโดยในกรณีที่มีการผสมน้ำเกลือลงไปในโบท็อกนั้นถ้าหากเราเจือจางน้ำเกลือมากเกินไปก็จะทำให้โบท็อกริ้วได้ง่ายขึ้น ปริมาณความเข้มข้นที่เหมาะสมในการผสมก็คือ Botox 100 Unit น้ำเกลือ 206 cc และก่อนที่จะฉีดควรจะให้แพทย์ผสมโบท็อกให้ดูต่อหน้าทุกครั้งเพื่อที่เราจะเกิดความมั่นใจได้ว่าไม่มีการเจือจางน้ำเกลือมากเกินไป

4.) เทคนิคการฉีดโบท็อกเป็นอย่างไร

ว่าด้วยเรื่องเทคนิคในการให้บริการเป็นเรื่องของความพร้อมของคลินิก แต่ละแห่งซึ่งถ้าหากเป็นคลินิกที่ได้มาตรฐานและมีแพทย์ที่มีความชำนาญการสูงแพทย์ก็จะสามารถประเมินกล้ามเนื้อก่อนจะทำการฉีดโบท็อกว่าส่วนไหนควรใช้ความลึกมากน้อยแค่ไหนซึ่งถ้าหากฉีดไม่ตรงจุดจะทำให้เราเห็นผลลัพธ์ช้าลงและอายุ Botox ก็จะอยู่ได้สั้นลง

5.) การฉีดโบท็อกควรใช้ Botox ไม่เกิน 300 ยูนิต

มีข้อแนะนำสำหรับการฉีดโบท็อกที่พูดเอาไว้เสมอก็คือการฉีดโบท็อกมากน้อยขึ้นอยู่กับดุลพินิจของแพทย์และความต้องการของผู้เข้ารับบริการ ดังนั้นสิ่งที่เราต้องรู้ก็คือทุกๆครั้งที่ฉีด ไม่ควรใช้ Botox มากกว่า 300 ยูนิตเนื่องจากจะเป็นการเพิ่มโอกาสให้ร่างกายสร้างภูมิต้านทานได้ง่ายขึ้น บางคลินิก จะมีการใช้เทคนิคการฉีดที่ไม่ได้ฉีดเข้าไปในกล้ามเนื้อโดยตรง ซึ่งเป็นสิ่งที่เราควรจะหลีกเลี่ยงเพราะมันจะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงในการดื้อยาและในแต่ละจุด ก็ไม่ควรใช้จำนวนยูนิตน้อยเกินไปเพราะจะทำให้หมดฤทธิ์ไวและต้องฉีดบ่อยมากขึ้นก็จะเกิดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคได้เช่นกันซึ่งในส่วนการใช้ Botox ว่าต้องใช้กี่ยูนิตนั้นแพทย์จะเป็นผู้ประเมินและแจ้งให้คนไข้ทราบทุกครั้ง

  • หลังฉีดโบท็อกต้องปฏิบัติตัวอย่างไรเพื่อให้โบท็อกสลายช้าสุด
    • เมื่อฉีดโบท็อกในแต่ละจุดเสร็จควรจะมีการขยับเกร็งกล้ามเนื้อที่ฉีดทันทีประมาณ 1 ถึง 2 ครั้ง และหลังจากการฉีดเสร็จทั้งหมดทุกจุด ควรมีการบริหารกล้ามเนื้อทั้งหมดที่ฉีดเป็นเวลาครึ่งชั่วโมง การทำแบบนี้จะช่วยให้โบท็อกถูกเซลล์ประสาทดูดซึมเข้าไปได้มากที่สุดและเหลือส่วนที่โบท็อกจะปลิวไปได้น้อยที่สุด และสิ่งที่สำคัญคือไม่ควรประคบเย็นเนื่องจากจะเป็นการขัดขวางการดูดโบท็อกซ์เข้าสู่เซลล์ประสาท
    • เมื่อเสร็จจากการฉีดโบท็อกแล้วควรนอนราบอย่างน้อย 3 ชั่วโมง แล้วไม่ควรไปแกะเกาหรือนวดบริเวณที่ 42 ทั้งการงดหรือหลีกเลี่ยงการก้มหัวลงต่ำกว่าระดับหัวใจ เนื่องจากจะเป็นการทำให้เลือดไหลเวียนมาที่บริเวณใบหน้ามากขึ้นจะส่งผลทำให้โบท็อกปลิวไปได้เยอะขึ้น
    • ควรหลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิดรวมไปถึงกิจกรรมต่างๆที่ทำให้หน้าแดง เหตุผลง่ายๆก็คือการที่หน้าแดงหมายความว่ามีการสูบฉีดเลือดขึ้นไปยังบริเวณใบหน้ามากขึ้นและมันก็เป็นผลทำให้โบท็อกริ้วไปนั่นเอง การงดหรือหลีกเลี่ยงสิ่งต่างๆเหล่านี้ควรทำอย่างน้อย 48 ชั่วโมงหลังจากการฉีด เป็นต้นว่าการออกกำลังกายหรือการอบซาวน่าการเดินตากแดดหรือการดื่มแอลกอฮอล์รวมไปถึงการทำเลเซอร์ร้อนที่ลงสู่ผิวชั้นลึกทุกประเภท งดการนอนคว่ำ

 

 

ฉีดโบท็อกซ์ ขอนแก่น , ฉีดฟีลเลอร์ ขอนแก่น , ฉีดฟิลเลอร์คาง , คลินิก ขอนแก่น , ผิวขาว ขอนแก่น

ฉีดฟีลเลอร์ อุดร, คลินิก อุดรฉีดโบท็อกซ์ อุดร

วันดี คลินิก ขอนแก่น (wandee clinic ) คลินิกความงาม ที่ได้มาตรฐาน
มีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ คอยให้คำปรึกษา และแก้ปัญหาที่คุณต้องการ
สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ :
วันดี คลินิก  344/17 ซอยรื่นรมย์ ต.ในเมือง อ.เมือง ขอนแก่น 40000

โทร : 097-935-5556
Line : @wandeeclinic
เว็บไซต์ :  www.wandeeclinic.com

 

หน้าแรก
รีวิว คลินิก
โปรโมชั่น
ติดต่อเรา