![](https://www.wandeeclinic.com/wp-content/uploads/2023/06/BOTOX.jpg)
![](https://www.wandeeclinic.com/wp-content/uploads/2023/06/BOTOX.jpg)
โบท็อกซ์
Botox คืออะไร ?
โบท็อกซ์ (Botox) คือ ชื่อทางการค้าของสารโบทูลินัม ท็อกซิน เอ (Botulinum toxin A) ซึ่งเป็นโปรตีนสกัดจากแบคทีเรียเฉพาะ (Clostridium botulinum) ที่จะช่วยจับกับปลายประสาทที่ควบคุมกล้ามเนื้อ เพื่อยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อในบริเวณที่ฉีด ให้กล้ามเนื้อไม่สามารถหดตัวได้ และอยู่ในสภาพคลายตัว การฉีดโบท็อกซ์จะช่วยทำให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดดูเล็กลง กระชับขึ้น หรือช่วยเติมเต็มร่องริ้วรอย กระชับรูขุมขนและริ้วรอยให้ตื้นขึ้น
![Botox คืออะไร ?](https://www.wandeeclinic.com/wp-content/uploads/2023/07/web-1024x576.png)
ฉีดโบท็อก ตรงไหนดี ?
การฉีดโบท็อกซ์สามารถฉีดได้หลากหลายจุด ซึ่งการฉีดแต่ละจุดนั้นจะใช้ปริมาณของโบท็อกซ์ที่แตกต่างกัน โดยส่วนมากจะขึ้นอยู่กับปัญหาแต่ละจุด รวมถึงขนาดกล้ามเนื้อ
- โบท็อกซ์ลดกราม 1 ข้าง 20-35 ยูนิต
- โบท็อกซ์ลิฟต์กรอบหน้า 20-30 ยูนิต
- โบท็อกซ์หน้าผาก 12-20 ยูนิต
- โบท็อกซ์ระหว่างคิ้ว 20-35 ยูนิต
- โบท็อกซ์ริ้วรอยตีนกา 10-18 ยูนิต
- โบท็อกซ์รักแร้ ลดเหงื่อ 50-100 ยูนิต
- โบท็อกซ์ลดกล้ามแขน 200 ยูนิต
- โบท็อกซ์ลดกล้ามเนื้อน่อง 200 ยูนิต
ทั้งนี้ควรปรึกษาแพทย์ก่อนฉีดโบท็อกซ์ เนื่องจากขนาดกล้ามเนื้อและปัญหาของแต่ละคนนั้นแตกต่างกัน
Botox รักษาริ้วรอยบนใบหน้าได้อย่างไร ?
การฉีดโบท็อกซ์ ถือเป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมสูง สามารถแก้ปัญหาเกี่ยวกับผิวหน้าได้หลายส่วน ไม่ว่าจะเป็น ริ้วรอย ที่เกิดจากการหดตัวของกล้ามเนื้อเมื่ออายุมากขึ้น ในหลาย ๆ บริเวณ เช่น หน้าผาก หางตา หว่างคิ้ว สามารถแก้ปัญหาผิวหน้าได้หลากหลายส่วน เช่น ริ้วรอย ไม่ว่าจะเป็น หางตา รอยย่นหว่างคิ้ว หน้าผาก การฉีดสารโบท็อกซ์จะช่วยทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว ช่วยให้ริ้วรอยในบริเวณที่ฉีดดูจางลงใน 1-2 สัปดาห์ และสามารถอยู่ได้นานถึง 4-6 เดือน ทำให้ผิวหน้าเรียบเนียนมากขึ้น
Botox ลดกราม ทำหน้า V-shape ได้อย่างไร ?
ใครที่กำลังมีปัญหาเรื่องกรามใหญ่ กรามชัด ถ่ายรูปมุมไหนก็ไม่เรียว อาจจะเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น ในคนที่ชอบเคี้ยวอาหารนาน ๆ หรือชอบทานอาหารเหนียว แข็ง อาจะจะทำให้กล้ามเนื้อกราม Masseter บริเวณมุมของกระดูกขากรรไกร นั้นแข็งแรงและมีขนาดที่ใหญ่มากขึ้น จนอาจจะทำให้รูปหน้ามีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งการฉีดโบท็อกซ์จะช่วยลดการทำงานของกล้ามเนื้อกราม ทำให้กรามมีขนาดเล็กลง หน้าเรียวมากขึ้น ผลลัพธ์หลังฉีดโบท็อกซ์จะอยู่ได้นานถึง 4-6 เดือน
แต่การฉีดโบท็อกซ์นั้นจะไม่สามารถได้ผลลัพธ์ สำหรับคนที่มีเนื้อกระดูกขากรรไกรที่หนา ทำให้ดูกรามใหญ่ เพราะโบท็อกซ์จะฉีดเข้าที่บริเวณกล้ามเนื้อ และออกฤทธิ์กับกล้ามเนื้อ แต่ไม่ส่งผลต่อกระดูก ดังนั้นก่อนจะฉีดโบท็อกซ์ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อที่แพทย์จะได้ทำการวิเคราะห์ใบหน้า และปัญหาของเราได้อย่างละเอียด
![ฉีดโบท็อกซ์](https://www.wandeeclinic.com/wp-content/uploads/2023/07/lm3-768x1024.png)
Botox ลดขนาดขา และน่องได้อย่างไร ?
คนที่มีปัญหาน่องปูด หรือต้นขามีความไม่กระชับ การลดเฉพาะส่วนที่ได้ผลไว คือ การฉีดโบท็อกซ์ หลายคนที่ชื่นชอบการวิ่ง อาจจะมีปัญหาเกี่ยวกับกล้ามเนื้อบริเวณน่องที่ดูโตขึ้น และแข็งแรงขึ้น จนทำให้สาว ๆ หลายคนอาจจะไม่มีความมั่นใจ การฉีดโบท็อกซ์เข้าสู่กล้ามเนื้อ จะทำให้กล้ามเนื้อทำงานได้น้อยลง จึงทำให้ขนาดของน่องลดลง และสามารถคงผลลัพธ์ได้ยาวนานถึง 3-6 เดือน
Botox ใช้ลดเหงื่อได้จริงหรือไม่ ?
การฉีดโบท็อกซ์นั้น นอกจากจะฉีดบริเวณใบหน้า เพื่อความสวยงามแล้วนั้น ยังสามารถช่วยรักษาภาวะเหงื่อออกมากผิดปกติ (Hyperhidrosis) ได้อีกด้วย หากใครมีปัญหาเหงื่อออกมากกว่าปกติ สามารถฉีดโบท็อกซ์บริเวณรักแร้ ฝ่ามือ ฝ่าเท้า เพื่อเข้าไปยับยั้งการหดตัวของกล้ามเนื้อ รวมถึงปลายประสาทที่กระตุ้นต่อมเหงื่อ ทำให้เหงื่อบริเวณนั้น ๆ ออกน้อยลง นอกจากจะลดเหงื่อแล้ว ยังสามารถลดกลิ่นตัว เพิ่มความมั่นใจได้อีกด้วย ซึ่งผลการรักษาจะอยู่ได้นานถึง 4-6 เดือน
Botox ใช้รักษาใบหน้าหย่อนคล้อยได้อย่างไร ?
เมื่ออายุมากขึ้นหลาย ๆ คนอาจจะเจอกับปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อย โดยเฉพาะบริเวณกล้ามเนื้อลำคอ ที่จะทำงานมากขึ้น และดึงใบหน้าให้มีความเหี่ยวย่น การฉีด Botox จะช่วยกระชับกรอบหน้า และกล้ามเนื้อบริเวณกรอบหน้าดูชัดขึ้น ซึ่งผลลัพธ์ของการฉีดโบท็อกซ์จะอยู่ได้นานถึง 2-4 เดือน ทั้งหากการหย่อนคล้อยของใบหน้าเกิดจากไขมันส่วนเกิน หรือการขาดคอลลาเจน อาจจะทำให้การรักษาด้วยโบท็อกซ์ไม่ได้ผล จะต้องทำหัตถการอื่นร่วมด้วย ดู รีวิวฉีดโบท็อกซ์ เพิ่มเติมได้ที่นี่
ฉีดโบท็อกซ์ ยี่ห้อไหนดี ?
ฉีดโบท็อกซ์ ยี่ห้อไหนดี ? ปัจจุบัน (ปี 2023 ) มียี่ห้อโบท็อกซ์ที่ผ่านการขึ้นทะเบียน สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ในประเทศไทย จำนวน 8 ยี่ห้อ ดังนี้
Allergan
Allergan Botox โบท็อกซ์สัญชาติอเมริกา ที่ได้รับความนิยมสูงมากในไทยและทั่วโลก ถือเป็นโบท็อกซ์ยี่ห้อแรกที่ผ่านองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา Allergan Botox จะใช้สาร Onabotulinumtoxin ที่ใช้รักษาริ้วรอย มีความบริสุทธิ์สูงมากถึง 99.5% ตัวยาโบท็อกซ์กระจายตัวแคบ และมีการออกฤทธิ์ที่แม่นยำ Allergan ผลิตโดย บริษัท Allergan ประเทศอเมริกา เป็นบริษัทยาที่มีผลิตภัณฑ์หลากหลายตัว เช่น ฟิลเลอร์ Juvederm หรือ เทคโนโลยีสลายไขมันด้วยความเย็น Coolsculpting ทั้งนี้ตัวยาของ Allergan Botox สามารถอยู่ได้นานถึง 5-6 เดือน
Allergan Botox สามารถฉีดได้หลายบริเวณ เช่น ลิฟต์กรอบหน้า ยกกระชับเหนียงคอ ลดกราม ปรับรูปหน้า และลดริ้วรอย เช่น ริ้วรอยระหว่างคิ้ว ริ้วรอยหน้าผาก ริ้วรอยตีนกา เฉพาะจุด เช่น ลดเหงื่อบริเวณรักแร้ ฝ่ามือ ฝ่าเท้า ลดน่อง
![Allergan Botox](https://www.wandeeclinic.com/wp-content/uploads/2023/07/4-1.png)
Dysport
Dysport botox เป็นโบท็อกซ์จากประเทศอังกฤษ จะมีตัวยาที่กระจายตัวกว้างกว่าโบท็อกซ์อเมริกา จึงไม่ทำให้ใบหน้าดูแข็ง มีความธรรมชาติ เป็นโบท็อกซ์ที่มีความบริสุทธิ์สูง และอยู่ได้นานถึง 4-6 เดือน มีการนำเข้า และจัดจำหน่ายในประเทศไทยโดยบริษัท กัลเดอร์มา ประเทศไทย ที่เดียวเท่านั้น ถือเป็นอีกหนึ่งยี่ห้อโบท็อกซ์ที่ได้รับความนิยม
โบท็อกซ์ Dysport สามารถฉีดได้หลายบริเวณ เช่น ลิฟต์กรอบหน้า ลดริ้วรอยหน้าผาก หรือบริเวณระหว่างคิ้ว เฉพาะจุด เช่น กล้ามเนื้อต้นแขน น่องขา ลดเหงื่อบริเวณรักแร้ ฝ่ามือ
![โบท็อกซ์ Dysport](https://www.wandeeclinic.com/wp-content/uploads/2023/07/5-1.png)
Xeomin
Xeomin botox โบท็อกซ์ยอดฮิตจากประเทศเยอรมัน ที่มาพร้อมเทคโนโลยีเฉพาะอย่าง XTRACT Technology ที่พัฒนามาใช้ในกระบวนการผลิต ทำทำให้มีการปนเปือนโปรตีนน้อย ทำให้โบท็อกซ์มีความบริสุทธิ์สูง จึงมีโอกาสดื้อยาน้อย และมีขนาดโมเลกุลขนาดเล็ก จึงทำให้ออกฤทธิ์ได้ดี ฉีดแล้วมีความเป็นธรรมชาติ หน้าไม่ดูแข็ง และสามารถอยู่ได้ถึง 4-6 เดือน
Xeomin สามารถฉีดได้หลากหลายส่วน เช่น ลดริ้วรอยทั่วใบหน้า ปรับรูปหน้าเรียว ลิฟต์กรอบหน้า ลดกราม ลดเฉพาะจุด เช่น ลดกล้ามเนื้อน่อง แขน
![Xeomin](https://www.wandeeclinic.com/wp-content/uploads/2023/07/6-1.png)
Nabota
อีกหนึ่งโบท็อกซ์ยอดนิยมของไทย ที่เรียกได้ว่าหลาย ๆ คนน่าจะรู้จักกันดี อย่าง Nabota Botox โบท็อกซ์สัญชาติเกาหลี ได้พัฒนาเทคโนโลยี HI-PURE Technology ที่มีเฉพาะยี่ห้อนี้เท่านั้น ทำให้มีความบริสุทธิ์ของโบท็อกซ์สูง จึงดื้อยาน้อย และทำให้ออกฤทธิ์ค่อนข้างไว สามารถอยู่ได้นานกว่า 4-6 เดือน Nabota Botox ถือเป็นโบท็อกซ์เกาหลียี่ห้อเดียวที่ผ่านการรับรองจาก USFDA (U.S. Food and Drug Administration) นอกจากนี้ยังได้รับอย. ไทย
Nabota Botox สามารถแก้ไขปัญหาได้หลายจุด เช่น ลดริ้วรอยทั่วใบหน้า ปรับรูปหน้าเรียว ลดกราม ลิฟต์กรอบหน้า ลดกล้ามเนื้อน่องขา แขน
![Nabota](https://www.wandeeclinic.com/wp-content/uploads/2023/07/7-1.png)
Aestox
Aestox Botox โบท็อกซ์เกาหลี ที่ได้รับความนิยมสูงในไทย ทั้งยังมีราคาที่ไม่แรง เป็นโบท็อกซ์ที่มีความบริสุทธิ์สูงถึง 99.5% ทำให้ออกฤทธิ์ไว มีความปลอดภัย และผ่านการรับรองจาก KFDA (Korea Food & Drug Administration) รวมถึงผ่านอย.ไทย
สามารถฉีดได้หลากหลายจุด ไม่ว่าจะเป็น การฉีดลดริ้วรอย ลิฟต์กรอบหน้า ลดขนาดกราม หรือการลดกล้ามเนื้อน่องขา แขน ลดเหงื่อบริเวณรักแร้
![Aestox](https://www.wandeeclinic.com/wp-content/uploads/2023/07/8-1.png)
HUGEL
HUGEL Botox เป็นโบท็อกซ์สัญชาติเกาหลี ที่มีความบริสุทธิ์สูง การฉีดโบท็อกซ์ HUGEL จะออกฤทธิ์ดีในเฉพาะจุด มีการกระจายตัวแคบ ทำให้ออกฤทธิ์ไว และอยู่ได้นานถึง 4-6 เดือน
HUGEL สามารถฉีดลดริ้วรอย ปรับหน้าเรียว ยกกระชับกรอบหน้า ลดกราม ลดขนาดกล้ามเนื้อน่อง แขน รวมถึงฉีดเฉพาะจุดรักแร้ได้
![HUGEL](https://www.wandeeclinic.com/wp-content/uploads/2023/07/9-1024x1024.png)
CLODEW
CLODEW อีกหนึ่งโบท็อกซ์ยอดฮิตจากเกาหลี เป็นโบท็อกซ์ที่มีเทคนิคเฉพาะตัวอย่าง Double V Lifting ที่จะช่วยกระชับผิว ออกฤทธิ์ได้ไว และอยู่ได้นานกว่า 4-6 เดือน โดย CLODEW เป็นโบท็อกซ์ที่ผลิตบริษัทเดียวกับ โบท็อกซ์ Nabota จึงมั่นใจได้เลยว่าคุณภาพดีแน่นอน
CLODEW Botox เหมาะสำหรับการฉีดลดริ้วรอย ลดกราม ยกกระชับ และลิฟต์กรอบหน้า
![CLODEW Botox](https://www.wandeeclinic.com/wp-content/uploads/2023/07/10-1024x1024.png)
BTXA
BTXA เป็นโบท็อกซ์สัญชาติฮ่องกง ที่กำลังได้รับความสนใจอย่างมาก โดยโบท็อกซ์ BTXA มีความบริสุทธิ์สูง 99.5% ทำให้ออกฤทธิ์ได้ไว และอยู่ได้นานถึง 4-6 เดือน
BTXA Botox สามารถฉีดลดริ้วรอย ลดกราม ลิฟต์กรอบหน้าได้
![BTXA Botox](https://www.wandeeclinic.com/wp-content/uploads/2023/07/11-1024x1024.png)
Botox มีผลข้างเคียงหรืออันตรายหรือไม่ ?
หัตถการโบท็อกซ์ Botox เป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนานในไทย แต่อย่างไรก็ตามก็อาจจะมีคนที่สนใจ แต่ไม่มั่นใจว่าโบท็อกซ์นั้นอันตรายหรือไม่ ? การฉีดโบท็อกซ์ สามารถช่วยลดริ้วรอย ปรับกรอบหน้าให้เรียว และยกกระชับใบหน้าได้ โดยการเลือกฉีดโบท็อกซ์ที่ผ่านการขึ้นทะเบียนอย.ไทย มีคุณภาพ และเป็นโบท็อกซ์ของแท้ ที่ฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญนั้น จะไม่อันตรายอย่างแน่นอน
แต่หลาย ๆ คนที่เห็นข่าวการฉีดโบท็อกซ์และเกิดผลข้างเคียงที่มีความรุนแรง โดยส่วนหนึ่งเกิดจากการเลือกฉีดโบท็อกซ์กับหมอกระเป๋า หรือผู้ที่ไม่ใช่แพทย์ ไม่ชำนาญ ซึ่งจะได้ราคาที่ถูกกว่าในคลินิกทั่วไป แต่อย่างไรก็ตามคุณภาพและความปลอดภัยก็มีน้อยมาก เพราะอาจจะเจอกับปัญหาโบท็อกซ์ปลอม หรือ Botox ที่ไม่ผ่านอย. ไทย หรือฉีดผิดจุด ทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย และส่งผลกระทบในระยะยาวได้ เช่น หนังตาตก ใบหน้าเบี้ยว หรืออาจจะทำให้ตาบอดได้
ทั้งนี้หากต้องการฉีดโบท็อกซ์ควร เลือกฉีดกับคลินิกที่ถูกกฎหมาย ได้มาตรฐาน มีความสะอาด มีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยดูแล และเลือกใช้โบท็อกซ์ที่เป็นของแท้ ผ่านอย. ไทย ก่อนฉีดทุกครั้งควรเช็คผลิตภัณฑ์ให้ดี
ข้อควรรู้ก่อน-หลัง ฉีดโบท็อกซ์
ก่อนฉีดโบท็อกซ์ควรเตรียมตัวอย่างไร ?
- ต้องเลือกใช้โบท็อกซ์แท้ ที่ตรวจสอบได้เท่านั้น
- ควรเลือกคลินิกเสริมความงามที่ได้มาตรฐาน และมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ สามารถตรวจสอบรายชื่อได้
- ในการฉีดโบท็อกซ์แต่ละครั้งไม่ควรฉีดโบท็อกเกิน 300 ยูนิต ต่อครั้ง
- ระหว่างการฉีดควรประคบด้วยความเย็น เพื่อลดการไหลเวียนของเส้นเลือดรอบ ๆ บริเวณที่ฉีด
หลังฉีดโบท็อกควรปฏิบัติตัวอย่างไร ?
- หลังฉีดโบท็อกควรรีบขยับเกร็งกล้ามเนื้อที่ฉีดทันที 1-2 ครั้ง
- ไม่ควรนอนราบ 3 ชม. หลังฉีด
- หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่สัมผัสกับความร้อนโดยตรง เช่น กลางแดด หรืออบไอน้ำ
- ควรงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด
- ควรงดการทำหัตถการอื่น ๆ รวมถึงเลเซอร์อย่างน้อย 2 สัปดาห์หลังทำ
ฉีดโบท็อกซ์ ที่ไหนดี ? เลือกคลินิกอย่างไรให้ปลอดภัย ?
การฉีดโบท็อกซ์ถือเป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมสูงในปัจจุบัน เพราะด้วยเรื่องของผลลัพธ์ที่ดี ราคาที่ไม่แรงมาก ทั้งยังสามารถแก้ปัญหาผิวได้อย่างหลากหลาย ทำให้สาว ๆ หนุ่ม ๆ หลายคนต่างให้ความสนใจ ทั้งนี้การฉีดโบท็อกซ์ หรือการทำหัตถการอื่น ๆ เช่น ฟิลเลอร์ เมโส นั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเลือกคลินิกที่มีมาตรฐานความสะอาด ถูกกฎหมาย ฉีดโบท็อก ที่ไหนดี ? เลือกคลินิกอย่างไรให้ปลอดภัย มีดังนี้
- เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีใบอนุญาตถูกต้อง และต้องดำเนินงานโดยแพทย์เท่านั้น
- เลือกคลินิกที่มีความสะอาด น่าเชื่อถือ และสามารถตรวจสอบได้
- ทีมแพทย์ต้องมีประสบการณ์ และสามารถตรวจสอบได้ โดยนำชื่อ-นามสกุล ตรวจสอบผ่านเว็บไซต์ของแพทยสภา (http://www.tmc.or.th/check_md/)
- ใช้ตัวยาของแท้ ที่สามารถตรวจสอบได้เท่านั้น และเลือกใช้อุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน