Juvelook มีลักษณะเป็น Spherical & Foamy Shape วงกลมขนาดไมโคร ที่มีรูอยู่โดยรอบ คล้ายกับฟองสบู่ ที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และยังได้รับการจดสิทธิบัตรในสหรัฐอเมริกา ที่ช่วยในการเพิ่มความหนาแน่น ความกระชับเต่งตึงของผิวได้ดี ทั้งยังทำให้เมื่อเข้าไปในผิวแล้วไม่เป็นก้อน นอกจากนี้ Ha ยังมีความเหนียวแน่น เกาะตัวกันเป็นอย่างดี ทำให้เมื่อเติมเข้าสู่ผิวหนังแล้วจะไม่เคลื่อนตัวไปจากบริเวณที่เติม ทั้งยังไม่เหลือสิ่งตกค้างในร่างกาย มั่นใจในความปลอดภัย เพราะได้รับการรับรองด้วยมาตรฐานจากสหรัฐอเมริกาหรือ Fda และ Ce หรือ กฎระเบียบว่าด้วยความปลอดภัยในสหภาพยุโรป ทั้งยังได้รับการรับรองจาก จากอย. ประเทศไทย

ปัจจุบันเทรนการทำสวยทีได้รับความนิยมสูงคงจะหนีไม่พ้น เทรนด์คืนความอ่อนเยาว์ให้ผิวดูเด็ก ซึ่งปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์มากมาย ที่ถูกพัฒนามาเพื่อแก้ไขปัญหาสำหรับคนที่มาอายุ 30 ปีขึ้นไป เพื่อช่วยคงความอ่อนเยาว์ กระตุ้นคอลลาเจนให้ผิวได้มากขึ้น เช่น Radiesse นวัตกรรมกระตุ้นคอลลาเจนตัวใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก สำหรับใครที่มีความสนใจและต้องการที่จะลองทำนั้น ก่อนที่จะเข้ารับการทำหัตถการ มาทำความรู้จักกับ Radiesse คืออะไร ? เจาะลึกนวัตกรรมคืนความอ่อนเยาว์ เติมวอลลุ่มให้ผิวดูเด็ก เพื่อเพิ่มความมั่นใจก่อนทำสวยที่ Wandee Clinic

Radiesse คืออะไร ?

RADIESSE® (เรเดียสซ์) เป็น the One of a Kind Regenerative Biostimulator ตัวช่วยฟื้นฟูผิวอย่างล้ำลึก เป็นนวัตกรรมใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์คนที่มีปัญหาคอลลาเจนสูญหาย ซึ่งตัว Radiesse นั้นมีส่วนประกอบหลัก คือ สาร CaHA (Calcium Hydroxylapatite microsphere) เป็นสารที่ถูกคิดค้น และมีการวิจัยโดยบริษัท Merz Aesthetics (บริษัท เมิร์ซ เอสเธติกส์) บริษัทความงามระดับโลก ที่ได้รับความไว้วางใจมากมาย

โดยจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ Radiesse คือ การฟื้นฟูผิวระดับลึก ถึงระดับโครงสร้าง หรือเรียกว่า Regenerative Biostimulator ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างตาข่ายคอลลาเจนทั้งหมด 5 ประเภท คือ Collagen Type I, Collagen Type III, Elastin,  Angiogenesis และ Proteoglycan ที่มีส่วนช่วยฟื้นฟูผิวให้สุขภาพดี ผิวกระชับ อิ่มฟู ทั้งยังช่วยลดเลือนริ้วรอย และยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยให้ดูเต่งตึง ทำให้หน้าดูเด็กลง

ผลลัพธ์หลังทำโปรแกรม Radiesse

การทำหัตถการ Radiesse จะฉีดยาเข้าไปที่บริเวณผิวระนาบ เมื่อตัวยาเข้าไปที่ผิวแล้วจะเข้าไปกระตุ้นการทำงานของ Fibroblasts (ไฟโบรบลาส) เซลล์ต้นกำเนิดคอลลาเจนในผิว ที่จะช่วยทำให้ผิวสร้างคอลลาเจนเพิ่มมากขึ้น

หลังเติมจะช่วยกระตุ้นคอลลาเจนใหม่ในช่วง 4-78 สัปดาห์ หลังจากนั้นอนุภาค CaHA จะค่อย ๆ ก่อตัวเป็นโครงสร้าง และช่วยกระตุ้นเซลล์ให้ผลิตคอลลาเจนออกมามากขึ้น กระตุ้นให้เกิดการสร้าง Elastin ในชั้นผิวสูงถึง 250%  ทำให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว โดยจะเปลี่ยนเป็นโครงสร้าง หรือเส้นใยตาข่าย 3 มิติ (3D Matrix) ช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับผิวชั้นลึก ทำให้ผิวดูอิ่มฟูขึ้นทันทีหลังฉีด ทั้งยังช่วยฟื้นฟูผิวที่เสื่อมสภาพจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น ช่วยทำให้ผิวยืดหยุ่นและคืนตัวได้ดี และชะลอการเกิดริ้วรอยในอนาคต หลังฉีดจะสามารถเห็นผลลัพธ์ทันที ใน 1 เดือนแรก หลังจากนั้นผิวจะเริ่มกระชับขึ้น มีความยืดหยุ่น ผิวแน่นฟู ร่องลึกต่าง ๆ ตื้นขึ้น ริ้วรอยจางลง และจะเห็นผลชัดเจนเต็มที่ใน 3-6 เดือนคงผลลัพธ์อยู่ได้นาน 2 ปี

คุณสมบัติของ Radiesse ช่วยอะไรบ้าง ?

• ช่วยกระตุ้นการสร้าง Collagen Type I +150% ให้โครงสร้างผิวแข็งแรงขึ้น ยกกระชับดูเต่งตึงมากขึ้น
• ช่วยกระตุ้นการสร้าง Collagen Type III +130% ฟื้นฟูถึงในระดับคอลลาเจนและอิลาสติน ให้จัดเรียงใหม่ ผิวดูกระชับ เต่งตึง พร้อมช่วยลดเลือนริ้วรอย
• ช่วยกระตุ้นการสร้าง Elastin +260% ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น เพิ่มวอลลุ่มให้ผิวดูสุขภาพดี
• ช่วยกระตุ้นการสร้างหลอดเลือดขนาดเล็ก ช่วยทำให้มีสารอาหารไปเลี้ยงเซลล์ผิว (Angiogenesis)
• ช่วยกระตุ้นการสร้างน้ำหล่อเลี้ยงผิว ช่วยทำให้ผิวดูชุ่มชื้น อิ่มน้ำมากขึ้น (Proteoglycan) ทำให้ผิวสามารถยืดหยุ่น และคืนตัวได้ดี

การดูแลหลังทำ Radiesse

• อาการหลังทำที่พบได้ทั่วไป อาจจะมีอาการบวมเล็กน้อยบริเวณที่ทำการรักษา ซึ่งอาการจะหายไปเองใน 72 ชั่วโมง ไม่ควรสัมผัส แตะ เกา บริเวณที่บวม
• หลีกเลี่ยงการแต่งหน้า หรือทาสกินแคร์บริเวณผิว 12 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการอักเสบ
• หลีกเลี่ยงการทำหัตถการที่มีความร้อนสูง เช่น เลเซอร์ หรือกิจกรรมที่มีความร้อน เช่น ซาวน่า อย่างน้อย 2 สัปดาห์หลังทำ
• หลังทำหากมีก้อนบริเวณใต้ผิวหนัง สามารถกดนวดบริเวณก้อน เพื่อลดอาการได้
• หลังทำอาจจะมีรอยช้ำ หรือผิวมีลักษณะแดงจากการทำหัตถการได้ แนะนําประคบเย็น หรือรับประทานยาที่ช่วยลดการช้ำได้
• แนะนำให้ประคบอุ่น หลังจากทำหัตถการผ่านไป 24 ชั่วโมง ตามคำแนะนําของแพทย์
• หากพบความผิดปกติอื่น ๆ หลังทำ Radiesse แนะนําให้กลับมาปรึกษาแพทย์

ข้อควรระวัง และผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้หลังทำโปรแกรม Radiesse

หลังจากทำหัตถการ Radiesse ผู้เข้ารับบริการสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ แต่ในช่วง 24 ชั่วโมงแรก หลีกเลี่ยงการจับ เกา ถู หรือนวดหน้าแรง ๆ เพื่อป้องกันการอักเสบหรือการติดเชื้อจากรูเข็มหลังทำ หากมีอาการบวม รอยช้ำจากเข็ม หรือผิวมีลักษณะแดง แนะนำให้ประคบอุ่น หรือรับประทานยาเพื่อลดอาการช้ำ ซึ่งรอยช้ำหรืออาการบวมจะค่อย ๆ หายไปได้เองภายใน 1-3 วัน หรือหากมีผลข้างเคียงอื่น ๆ เช่น ผิวเปลี่ยนสี ผิวบริเวณที่ฉีดซีดลง ควรเข้ามาพบแพทย์ทันทีเพื่อวางแผนทำการรักษา

Q : หัตถการ Radiesse อยู่ได้นานไหม ?

A : หลายคนอาจจะมีข้อสงสัยว่าการทำหัตถการ Radiesse สามารถอยู่ได้นานแค่ไหน ? หลังทำ Radiesse จะสามารถคงผลลัพธ์อยู่ได้นานถึง 2 ปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความถี่ของการรักษา ปัญหาและสภาพผิวของแต่ละบุคลคล รวมถึงการดูแลตัวเองเพื่อรักษาคอลลาเจนใหม่ในชั้นผิวให้อยู่ได้นานขึ้น

Q : หากทำ Radiesse กี่วันเห็นผลลัพธ์ ?

A : หลังทำหัตถการ Radiesse จะสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันที ในช่วง 1 เดือนแรก ผิวจะเริ่มมีความกระชับ ผิวมีความยืดหยุ่นมากขึ้น ผิวมีความแน่นอิ่มฟู เติมร่องริ้วรอยให้ตื้นขึ้น ในช่วง 3-6 เดือน จะเริ่มออกฤทธิ์กระตุ้นคอลลาเจน ทำให้ผิวดูยกกระชับ อิ่มน้ำ ใบหน้าดูมีมิติ เรียบเนียน และมีวอลลุ่มมากขึ้น ซึ่งจะเริ่มเห็นผลได้ชัดเจนขึ้น

Q : เติม Radiesse ต้องทำกี่ครั้ง ?

A : สำหรับใครที่ต้องการผลลัพธ์ที่ยาวนานและถาวร แนะนำให้ทำโปรแกรม Radiesse ติดต่อกัน 1-3 ครั้ง ควรเว้นระยะห่าง 1 เดือน เพื่อผลลัพธ์ที่ดี ทั้งนี้ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินปัญหา เนื่องจากแต่ละบุคคลจะมีปัญหาผิวที่แตกต่างกัน และโปรแกรม Radiesse จะสามารถอยู่ได้นานถึง 2 ปี ขึ้นอยู่กับการดูแลหลังทำ

Q : Radiesse 1 กล่อง มีกี่ CC ?

A : โปรแกรม Radiesse ตัวยาจะมาในรูปแบบของเจล (Pre-filled syringe) โดย 1 กล่องจะมี 1 ไซริงค์ หรือ 1.5 CC ภายในจะประกอบไปด้วยตัวยา ดังนี้

• แคลเซียมไฮดรอกซีอะพาไทต์ไมโครสเฟียร์ (CaHA) 30% ลักษณะทรงกลมขนาด 25-45 ไมครอน
• เจลคาร์บอกซีเมทิลเซลลูโลส (CMC) 70%

ซึ่ง Radiesse จะมีอายุในการเก็บรักษา 2 ปี สามารถเก็บได้ที่อุณหภูมิ 15-25° C ไม่ต้องเก็บใส่ตู้เย็น

สรุป

Radiesse หัตถการดูแลผิวอย่างล้ำลึก ที่ช่วยดูแลผิวได้ถึงระดับโครงสร้าง กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนมากถึง 5 ชนิด ให้ผิวดูเต่งตึงสุขภาพดี เติมเต็มร่องริ้วรอยให้ตื้นขึ้น ผิวดูมีมิติ คืนความอ่อนเยาว์ให้กลับมาดูเด็กอีกครั้ง สำหรับใครที่อยากลองทำหัตถการนี้ สามารถเข้ามาปรึกษาแพทย์ที่ วันดี คลินิก ได้เลย

Wandee clinic  คลินิกความงามที่ได้มาตรฐาน ครบวงจร พร้อมมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมีความยินดีที่จะให้บริการ และคอยให้คำปรึกษาแก่คุณลูกค้าทุกท่าน และแก้ปัญหาที่คุณต้องการ สามารถดู รีวิว Meso ของวันดีคลินิกเพิ่มเติมได้ หรือใครต้องการที่จะดู รีวิว คลินิก การทำหัถการอื่น ๆ สามารถเข้ามาดูได้

Meso หน้าใส, ฉีดเมโสหน้าใส, ฉีดเมโสหน้าใสที่ไหนดี, รีวิวเมโสหน้าใส, เมโสหน้าใสที่ไหนดี

สามารถสอบถามเพิ่มเติมที่:

เว็บไซต์ : www.wandeeclinic.com

LINE ID : @wandeeclinic

วันดีคลินิก สาขาใกล้บ้านคุณ

สาขาขอนแก่น ตึกคอม

344/17 ซอยรื่นรมย์ ต.ในเมือง อ.เมือง ขอนแก่น 40000

สาขาขอนแก่น หอกาญ

193 70-71 ถ. กัลปพฤกษ์ ในเมือง เมือง ขอนแก่น 40000

สาขาอุดรธานี

75/20-21 ถนนทหาร ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมือง เทศบาลนครอุดรธานี 41000

สาขาเดอะสตรีท รัชดา

139 ศูนย์การค้า เดอะ สตรีท รัชดา ห้องเลขที่ 365 ชั้น 3 ร้าน Wandee clinic ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขต ดินแดง กรุงเทพมหานคร 10400

สาขาพัทยา ชลบุรี

หมู่ที่ 12 315/300-301 อำเภอบางละมุง ชลบุรี 20150

สาขาโคราช

1119/8 ถ. สุรนารายณ์ ตำบล บ้านเกาะ นครราชสีมา

Wandee clinic  คลินิกความงามที่ได้มาตรฐาน ครบวงจร พร้อมมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมีความยินดีที่จะให้บริการ และคอยให้คำปรึกษาแก่คุณลูกค้าทุกท่าน และแก้ปัญหาที่คุณต้องการ สามารถดู รีวิว Meso ของวันดีคลินิกเพิ่มเติมได้ หรือใครต้องการที่จะดู รีวิว คลินิก การทำหัถการอื่น ๆ สามารถเข้ามาดูได้ Meso หน้าใส, ฉีดเมโสหน้าใส, ฉีดเมโสหน้าใสที่ไหนดี, รีวิวเมโสหน้าใส, เมโสหน้าใสที่ไหนดี

สามารถสอบถามเพิ่มเติมที่:

เว็บไซต์ : www.wandeeclinic.com

Wandee clinic  คลินิกความงามที่ได้มาตรฐาน ครบวงจร พร้อมมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมีความยินดีที่จะให้บริการ และคอยให้คำปรึกษาแก่คุณลูกค้าทุกท่าน และแก้ปัญหาที่คุณต้องการ สามารถดู รีวิว Meso ของวันดีคลินิกเพิ่มเติมได้ หรือใครต้องการที่จะดู รีวิว คลินิก การทำหัถการอื่น ๆ สามารถเข้ามาดูได้ Meso หน้าใส, ฉีดเมโสหน้าใส, ฉีดเมโสหน้าใสที่ไหนดี, รีวิวเมโสหน้าใส, เมโสหน้าใสที่ไหนดี

สามารถสอบถามเพิ่มเติมที่:

เว็บไซต์ : www.wandeeclinic.com

ต้องบอกเลยว่าเทรนด์หน้าใส หน้าฉ่ำโกลว์ หน้าดูเด็ก กำลังมาแรงอย่างมากในปัจจุบัน ผิวหน้าที่ดูสุขภาพดีจะช่วยเสริมบุคลิกให้เรามีความมั่นใจได้มากยิ่งขึ้น สาว ๆ หรือหนุ่ม ๆ ที่กำลังมีปัญหาผิวหน้าที่ดูแห้งกร้าน หย่อนคล้อย หน้าดูโทรมและดูมีอายุ วันนี้ทาง วันดี คลินิก ของเราจะพามาทำความรู้จักกับ sculptra vs filler ตัวช่วยงานผิว ต่างกันอย่างไร เลือกตัวไหนดี ? ที่เหมาะสำหรับเรา

Sculptra ทำงานอย่างไร ?

สาว ๆ วัย 30 อัพคนไหนที่อยากจะเติมความชุ่มชื้น และคงความอ่อนเยาว์ให้กับผิว อีกหนึ่งหัตถการมาแรงที่สามารถคงผลลัพธ์หน้าเด็กได้ถึง 2 ปี คือ Sculptra เรียกว่าเป็นสกินบูสเตอร์กำลังโด่งดังและได้รับความสนใจอย่างมาก โดย Sculptra จะช่วยเข้าไปดูแล ฟื้นฟูผิวได้อย่างล้ำลึก เพื่อเติมเต็มช่องว่าง หรือริ้วรอยบนผิว และสาร PLLA จะค่อย ๆ ถูกดูดซึม และมีการเปลี่ยนแปลงเป็น Lactic acid ทำงานกับระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย โดยจากผลการวิจัย Sculptra สามารถกระตุ้นการสร้าง Collagen type1 ได้สูงถึง 66.5% หลังจากฉีดไปแล้ว 3 เดือน ทั้งยังช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาว Macrophage ในการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน ตั้งแต่หลังฉีดวันที่ 5 จากนั้นจะช่วยทำให้ร่างกายสามารถผลิตคอลลาเจนเองได้ และช่วยคงความอ่อนเยาว์ได้มากขึ้น

จุดเด่นของ Sculptra

• Sculptra ช่วยกระตุ้นการสร้าง Collagen Type 1 ได้สูงถึง 5% ช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นให้ผิว ฟื้นฟูผิวได้อย่างล้ำลึก ทั้งยังช่วยปรับสภาพผิวให้ดูอ่อนเยาว์ลง
• Sculptra เป็นสารสกัดจาก Collagen Biostimulator ตัวแรก และตัวเดียวของโลกที่ผ่านการรับรองมาตรฐานจาก US-FDA และผ่านการรับรองมาตรฐาน อย. ประเทศไทย ทำให้มั่นใจได้ว่าปลอดภัย ไม่มีสารอันตรายตกค้างในร่างกาย
• หลังฉีด Sculptra จะค่อย ๆ เริ่มเห็นผลลัพธ์ในช่วง 2-3 สัปดาห์แรกหลังฉีด และช่วยฟื้นฟูผิวได้ยาวนานต่อเนื่องถึง 25 เดือน
• Sculptra เป็นสารสังเคราะห์จากพืช ทำให้ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ไม่ทำให้เกิดอาการแพ้ และเกิดผลข้างเคียง

Sculptra เหมาะกับใคร ?

• ผู้มีมีอายุ 30 ปีขึ้นไป
• ผู้ที่มีริ้วรอยร่องลึก รูขุมขนกว้าง ไม่เรียบเนียน
• ผู้ที่มีผิวขาดความยืดหยุ่น ผิวไม่กระชับ มีผิวที่หย่อนคล้อย
• ผู้ที่มีปัญหาผิวแห้งกร้าน ต้องการเติมความชุ่มชื้นให้ผิว และต้องการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
• ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวให้แข็งแรงอย่างล้ำลึก
• ผู้ที่ต้องการคงความอ่อนเยาว์ให้ผิว
• ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ยาวนาน เนื่องจาก Sculptra สามารถอยู่ได้นานถึง 2 ปี

จุดเด่นของฟิลเลอร์

• ฟิลเลอร์ เป็นสารเติมเต็มกรดไฮยาลูรอนิก ที่มีความปลอดภัย ไม่ทำให้เกิดการแพ้ ทั้งยังสามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ และผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัย จากทั้ง US-FDA, EU และมาตรฐาน อย. ประเทศไทย
• การฉีดฟิลเลอร์สามารถเห็นผลได้ทันทีหลังฉีดถึง 70-80% และสามารถเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากขึ้นในช่วง 2-3 สัปดาห์หลังฉีด
• ฟิลเลอร์สามารถช่วยเติมเต็มร่องลึก หรือช่วยเติมเต็มในส่วนที่คอลลาเจนของผิวหายไปได้ ทำให้ใบหน้าดูมีมิติ และอิ่มฟู นอกจากนี้ยังช่วยปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วนได้
• ฟิลเลอร์ส่วนมากสามารถอยู่ได้นานถึง 16-24 เดือน ขึ้นอยู่กับแต่ละยี่ห้อ และการฉีดฟิลเลอร์ในแต่ละส่วน

filler เหมาะกับใคร

• ผู้ที่มีผิวแห้งดูหยาบกร้าน
• ผู้ที่มีผิวขาดความยืดหยุ่น ผิวไม่กระชับเรียบเนียน
• ผู้ที่มีรูขุมขนกว้าง ผิวไม่เรียบเนียน มีริ้วรอยร่องตื้น และมีหลุมสิว
• ผู้ที่ต้องการปรับสภาพผิวให้มีความชุ่มชื้น ต้องการผิวดูโกลว์ ฉ่ำวาว แบบผิวกระจก
• ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวหน้าแบบเร่งด่วน

ฟิลเลอร์งานผิว แตกต่างจากฟิลเลอร์ทั่วไปไหม

สาว ๆ หลายคนอาจจะมีคำถามเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ว่าระหว่าง ฟิลเลอร์งานผิว กับฟิลเลอร์ทั่วไปต่างกันไหม ? ฟิลเลอร์ เป็นสารเติมเต็มที่จะช่วยแก้ไขปัญหาผิวได้อย่างหลากหลาย ในปัจจุบันมีการพัฒนานำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้ในฟิลเลอร์ ทำให้เนื้อฟิลเลอร์มีความหลากหลายมาหขึ้น ทั้งยังตอบโจทย์ปัญหาผิวได้อย่างครอบคลุม เช่น ฟิลเลอร์งานผิว ที่กำลังโด่งดัง เป็นฟิลเลอร์ที่มีเนื้อบางเบา เหมาะสำหรับเติมเต็มความชุ่มชื้นให้กับผิว บำรุงผิว และช่วยปรับสภาพผิวให้แข็งแรง ผลิตมาเพื่อฉีดบริเวณผิวหน้า เพื่อปรับสภาพผิว ให้ผิวดูอิ่มฟูฉ่ำวาว เหมือนผิวกระจก ลดเลือนริ้วรอย ซึ่งจะแตกต่างกับฟิลเลอร์ทั่วไปที่ช่วยเติมเต็มร่องลึก ปรับโครงหน้า เพิ่มมิติให้กับใบหน้าให้สมส่วนมากขึ้น โดยส่วนมากจะมีเนื้อที่แน่น มีความยืดหยุ่น สามารถคงรูปได้ดี นิยมฉีดบริเวณ หน้าแก้ม ร่องแก้ม ใต้ตา ขมับ ปาก และคาง เป็นต้น

Sculptra vs filler เลือกตัวไหนดี?

คำถามที่หลาย ๆ คนอาจจะสงสัย ถ้าหาก Sculptra และ filler มีคุณสมบัติที่ใกล้เคียงกัน ดังนั้นระหว่าง Sculptra vs filler ควรเลือกฉีดตัวไหนดี?

• Sculptra เป็นหนึ่งในสกินบูสเตอร์ที่เหมาะสำหรับการดูแลฟื้นฟูผิวหน้าอย่างล้ำลึก และช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และอิลาสตินใต้ผิวหนังได้อย่างยั่งยืน ทำให้ปรับโครงสร้างผิวให้แข็งแรง ช่วยบำรุงผิวให้ดูชุ่มชื้น อิ่มฟู ริ้วรอยดูจางลง ปรับผิวให้แลดูกระจ่างใส และใบหน้าดูอ่อนเยาว์ลง จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไปที่มีปัญหาริ้วรอย หน้าดูแห้งกร้าน หย่อนคล้อย
• Filler เป็นสารเติมเต็มที่ฉีดเพื่อทดแทนการสลายไปของคอลลาเจน ช่วยปรับรูปหน้า เติมเต็มเฉพาะจุด และเพิ่มมิติให้กับใบหน้า และช่วยฟื้นฟูผิวให้ดูอิ่มฟู ฉ่ำวาว ดูกระจ่างใส ให้ผิวโกลว์สวย จึงเหมาะสำหรับคนที่มีปัญผิวหน้าแห้ง ไม่กระจ่างใส อยากเติมความชุ่มชื้นให้ผิวดูฉ่ำวาว ผิวกระจก

ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการประเมินสภาพผิวของแพทย์ และความต้องการของคนไข้ว่าต้องการเลือกรักษาด้วยหัตถการใด

สรุป

Sculptra vs filler ถือเป็นตัวเลือกที่จะช่วยตอบโจทย์ปัญหาผิวสำหรับสาว ๆ ที่อยากจะฟื้นฟูผิวหน้าให้แข็งแรง เติมเต็มความชุ่มชื้นให้ผิวดูอิ่มฟู ฉ่ำวาว แลดูกระจ่างใส สุขภาพดี แต่อย่างไรก็ตาม Sculptra กับ filler ก็มีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน สำหรับใครที่อยากจะฟื้นูผิว สามารถเข้ามาปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินปัญหาผิวว่าควรรักษาด้วยหัตถการแบบไหน ได้ที่ วันดี คลินิก ทุกสาขา

Wandee clinic  คลินิกความงามที่ได้มาตรฐาน ครบวงจร พร้อมมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมีความยินดีที่จะให้บริการ และคอยให้คำปรึกษาแก่คุณลูกค้าทุกท่าน และแก้ปัญหาที่คุณต้องการไม่ว่าจะเป็น รีวิว คลินิก , Fillerคาง ,ฟิลเลอร์ ,ฉีดฟิลเลอร์ ,ฟิลเลอร์คาง ,รีวิวฉีดปาก ,รีวิวฉีดปากวันดีคลินิก ,โปรโมชั่นคลินิก,คลินิกขอนแก่น ,คลินิกศัลยกรรมที่ไหนดี ,คลินิกเสริมความงาม, คลินิกความงาม, เมโสแฟต , รีวิว Meso , Meso หน้าใส, ฉีดเมโสหน้าใส, ฉีดเมโสหน้าใสที่ไหนดี, รีวิวเมโสหน้าใส, เมโสหน้าใสที่ไหนดี อย่างเป็นกันเองค่ะ

สามารถสอบถามเพิ่มเติมที่:

เว็บไซต์ : www.wandeeclinic.com

LINE ID : @wandeeclinic

วันดีคลินิก สาขาใกล้บ้านคุณ

สาขาขอนแก่น ตึกคอม

344/17 ซอยรื่นรมย์ ต.ในเมือง อ.เมือง ขอนแก่น 40000

สาขาขอนแก่น หอกาญ

193 70-71 ถ. กัลปพฤกษ์ ในเมือง เมือง ขอนแก่น 40000

สาขาอุดรธานี

75/20-21 ถนนทหาร ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมือง เทศบาลนครอุดรธานี 41000

สาขาเดอะสตรีท รัชดา

139 ศูนย์การค้า เดอะ สตรีท รัชดา ห้องเลขที่ 365 ชั้น 3 ร้าน Wandee clinic ถนนรัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขต ดินแดง กรุงเทพมหานคร 10400

สาขาพัทยา ชลบุรี

หมู่ที่ 12 315/300-301 อำเภอบางละมุง ชลบุรี 20150

สาขาโคราช

1119/8 ถ. สุรนารายณ์ ตำบล บ้านเกาะ นครราชสีมา