sculptra vs filler ตัวช่วยงานผิว ต่างกันอย่างไร เลือกตัวไหนดี ?

ต้องบอกเลยว่าเทรนด์หน้าใส หน้าฉ่ำโกลว์ หน้าดูเด็ก กำลังมาแรงอย่างมากในปัจจุบัน ผิวหน้าที่ดูสุขภาพดีจะช่วยเสริมบุคลิกให้เรามีความมั่นใจได้มากยิ่งขึ้น สาว ๆ หรือหนุ่ม ๆ ที่กำลังมีปัญหาผิวหน้าที่ดูแห้งกร้าน หย่อนคล้อย หน้าดูโทรมและดูมีอายุ วันนี้ทาง วันดี คลินิก ของเราจะพามาทำความรู้จักกับ sculptra vs filler ตัวช่วยงานผิว ต่างกันอย่างไร เลือกตัวไหนดี ? ที่เหมาะสำหรับเรา

ฟิลเลอร์งานผิว แตกต่างจากฟิลเลอร์ทั่วไปไหม
Sculptra vs filler ต่างกันอย่างไร
Sculptra vs filler เลือกตัวไหนดี?
รีวิวจากผู้ใช้งานจริง
ฉีด Sculptra และ filler ที่ไหนดี ?
สรุป

Sculptra คืออะไร

Sculptra (สกัลป์ทรา) นวัตกรรมน้องใหม่มาแรง ที่ช่วยกระชากวัยให้กลับมาดูเด็กลงอีก 10 ปีถือเป็นทางเลือกที่หลาย ๆ คนต่างให้ความสนใจอย่างมากในปัจจุบัน โดย Sculptra คือ PLLA (Poly-L-Lactic acid) ถูกจัดอยู่ในกลุ่มของ Collagen Biostimulator ตัวแรก ซึ่งเป็นสารสังเคราะห์จากพืช ทำให้ไม่อันตรายต่อร่างกาย โดยสารสกัดนี้ได้รับการอนุมัติจาก FDA ในสหรัฐอเมริกา ซึ่ง PLLA จะทำงานกับระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย โดยจะเข้าไปกระตุ้นเซลล์เม็ดเลือดขาว Macrophage ให้กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และอิลาสตินใต้ชั้นผิว ซึ่งจะช่วยคืนความอ่อนเยาว์ได้ ทั้งยังมีปริมาณของคอลลาเจนมากกว่าการฉีด Hyaluronic Acid ทั่วไป การฉีด Sculptra จะได้ผลลัพธ์ที่ดีและยาวนานกว่า

Sculptra ทำงานอย่างไร ?

สาว ๆ วัย 30 อัพคนไหนที่อยากจะเติมความชุ่มชื้น และคงความอ่อนเยาว์ให้กับผิว อีกหนึ่งหัตถการมาแรงที่สามารถคงผลลัพธ์หน้าเด็กได้ถึง 2 ปี คือ Sculptra เรียกว่าเป็นสกินบูสเตอร์กำลังโด่งดังและได้รับความสนใจอย่างมาก โดย Sculptra จะช่วยเข้าไปดูแล ฟื้นฟูผิวได้อย่างล้ำลึก เพื่อเติมเต็มช่องว่าง หรือริ้วรอยบนผิว และสาร PLLA จะค่อย ๆ ถูกดูดซึม และมีการเปลี่ยนแปลงเป็น Lactic acid ทำงานกับระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย โดยจากผลการวิจัย Sculptra สามารถกระตุ้นการสร้าง Collagen type1 ได้สูงถึง 66.5% หลังจากฉีดไปแล้ว 3 เดือน ทั้งยังช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาว Macrophage ในการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน ตั้งแต่หลังฉีดวันที่ 5 จากนั้นจะช่วยทำให้ร่างกายสามารถผลิตคอลลาเจนเองได้ และช่วยคงความอ่อนเยาว์ได้มากขึ้น

โดยคอลลาเจนชนิดที่ 1 (Collagen Type I) พบมากถึง 90% ของคอลลาเจนทั้งหมดในร่างกาย และสำคัญที่สุดช่วยในการเสริมความยืดหยุ่น การสมานแผล สามารถพบได้ในผิวหนัง เส้นผม กระดูก เนื้อเยื่อ และผนังหลอดเลือด

จุดเด่นของ Sculptra

Sculptra ช่วยกระตุ้นการสร้าง Collagen Type 1 ได้สูงถึง 5% ช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นให้ผิว ฟื้นฟูผิวได้อย่างล้ำลึก ทั้งยังช่วยปรับสภาพผิวให้ดูอ่อนเยาว์ลง
Sculptra เป็นสารสกัดจาก Collagen Biostimulator ตัวแรก และตัวเดียวของโลกที่ผ่านการรับรองมาตรฐานจาก US-FDA และผ่านการรับรองมาตรฐาน อย. ประเทศไทย ทำให้มั่นใจได้ว่าปลอดภัย ไม่มีสารอันตรายตกค้างในร่างกาย
หลังฉีด Sculptra จะค่อย ๆ เริ่มเห็นผลลัพธ์ในช่วง 2-3 สัปดาห์แรกหลังฉีด และช่วยฟื้นฟูผิวได้ยาวนานต่อเนื่องถึง 25 เดือน
Sculptra เป็นสารสังเคราะห์จากพืช ทำให้ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ไม่ทำให้เกิดอาการแพ้ และเกิดผลข้างเคียง

Sculptra เหมาะกับใคร ?

ผู้มีมีอายุ 30 ปีขึ้นไป
ผู้ที่มีริ้วรอยร่องลึก รูขุมขนกว้าง ไม่เรียบเนียน
ผู้ที่มีผิวขาดความยืดหยุ่น ผิวไม่กระชับ มีผิวที่หย่อนคล้อย
ผู้ที่มีปัญหาผิวแห้งกร้าน ต้องการเติมความชุ่มชื้นให้ผิว และต้องการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวให้แข็งแรงอย่างล้ำลึก
ผู้ที่ต้องการคงความอ่อนเยาว์ให้ผิว
ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่ยาวนาน เนื่องจาก Sculptra สามารถอยู่ได้นานถึง 2 ปี

ฟิลเลอร์ (Filler) คืออะไร?

ฟิลเลอร์ คือ สารเติมเต็มไฮยาลูโรนิกแอซิด (Hyaluronic Acid หรือ HA) ช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นให้กับผิว ทั้งยังช่วยกับเก็บความชุ่มชื้น และเติมเต็มผิวในบริเวณร่องลึกให้ดูตื้นขึ้น เติมเต็มผิวหน้าให้ดูเต่งตึงขึ้น ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์เป็นอีกหนึ่งหัตถการยอดนิยม โดยในปัจจุบันมีการฉีดฟิลเลอร์นั้นนอกจากจะสามารถฉีดเติมเต็มบริเวณ ร่องแก้ม ขมับ ปาก ใต้ตา หรือริ้วรอยแล้วนั้น ยังสามารถฉีดฟิลเลอร์งานผิวเข้าบริเวณผิวหน้า เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาผิวแห้งกร้าน รูขุมขนกว้าง เติมเต็มความชุ่มชื้น และดูแลผิวให้สุขภาพดีได้

จุดเด่นของฟิลเลอร์

ฟิลเลอร์ เป็นสารเติมเต็มกรดไฮยาลูรอนิก ที่มีความปลอดภัย ไม่ทำให้เกิดการแพ้ ทั้งยังสามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ และผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัย จากทั้ง US-FDA, EU และมาตรฐาน อย. ประเทศไทย
การฉีดฟิลเลอร์สามารถเห็นผลได้ทันทีหลังฉีดถึง 70-80% และสามารถเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากขึ้นในช่วง 2-3 สัปดาห์หลังฉีด
ฟิลเลอร์สามารถช่วยเติมเต็มร่องลึก หรือช่วยเติมเต็มในส่วนที่คอลลาเจนของผิวหายไปได้ ทำให้ใบหน้าดูมีมิติ และอิ่มฟู นอกจากนี้ยังช่วยปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วนได้
ฟิลเลอร์ส่วนมากสามารถอยู่ได้นานถึง 16-24 เดือน ขึ้นอยู่กับแต่ละยี่ห้อ และการฉีดฟิลเลอร์ในแต่ละส่วน

filler เหมาะกับใคร

ผู้ที่มีผิวแห้งดูหยาบกร้าน
ผู้ที่มีผิวขาดความยืดหยุ่น ผิวไม่กระชับเรียบเนียน
ผู้ที่มีรูขุมขนกว้าง ผิวไม่เรียบเนียน มีริ้วรอยร่องตื้น และมีหลุมสิว
ผู้ที่ต้องการปรับสภาพผิวให้มีความชุ่มชื้น ต้องการผิวดูโกลว์ ฉ่ำวาว แบบผิวกระจก
ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวหน้าแบบเร่งด่วน

ฟิลเลอร์งานผิว แตกต่างจากฟิลเลอร์ทั่วไปไหม

สาว ๆ หลายคนอาจจะมีคำถามเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ว่าระหว่าง ฟิลเลอร์งานผิว กับฟิลเลอร์ทั่วไปต่างกันไหม ? ฟิลเลอร์ เป็นสารเติมเต็มที่จะช่วยแก้ไขปัญหาผิวได้อย่างหลากหลาย ในปัจจุบันมีการพัฒนานำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้ในฟิลเลอร์ ทำให้เนื้อฟิลเลอร์มีความหลากหลายมาหขึ้น ทั้งยังตอบโจทย์ปัญหาผิวได้อย่างครอบคลุม เช่น ฟิลเลอร์งานผิว ที่กำลังโด่งดัง เป็นฟิลเลอร์ที่มีเนื้อบางเบา เหมาะสำหรับเติมเต็มความชุ่มชื้นให้กับผิว บำรุงผิว และช่วยปรับสภาพผิวให้แข็งแรง ผลิตมาเพื่อฉีดบริเวณผิวหน้า เพื่อปรับสภาพผิว ให้ผิวดูอิ่มฟูฉ่ำวาว เหมือนผิวกระจก ลดเลือนริ้วรอย ซึ่งจะแตกต่างกับฟิลเลอร์ทั่วไปที่ช่วยเติมเต็มร่องลึก ปรับโครงหน้า เพิ่มมิติให้กับใบหน้าให้สมส่วนมากขึ้น โดยส่วนมากจะมีเนื้อที่แน่น มีความยืดหยุ่น สามารถคงรูปได้ดี นิยมฉีดบริเวณ หน้าแก้ม ร่องแก้ม ใต้ตา ขมับ ปาก และคาง เป็นต้น

Sculptra vs filler ต่างกันอย่างไร

สำหรับใครที่มีข้อสงสัยว่า Sculptra vs filler มีความแตกต่างกันอย่างไร ควรเลือกตัวไหนดี โดยคุณสมบัติทั่วไปของทั้ง 2 ตัว คือ ปรับสภาพผิวให้เรียบเนียน ฟื้นฟูผิวให้แข็งแรง ทั้งยังช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้าให้ดูฉ่ำวาว แลดูกระจ่างใสขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม Sculptra และ filler นั้นเป็นสารคนละประเภท จึงทำให้มีความแตกต่างกัน ทั้งกระบวนการทำงาน ผลลัพธ์ รวมถึงระยะเวลาของผลลัพธ์ด้วย ดังนี้

	Sculptra	Filler
ตัวยาที่ใช้	มีองค์ประกอบหลักเป็น PLLA ที่สารที่สังเคราะห์บริสุทธิ์จากพืช ทำให้ปลอดภัยต่อร่างกาย	สารสังเคราะห์เลียนแบบ Hyaluronic Acid หรือ HA ซึ่งเป็นสารที่มีอยู่ในร่างกายของเราอยู่แล้ว
หลักการทำงาน	Sculptra ทำงานร่วมกันกับระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย เพื่อกระตุ้นให้เซลล์ไฟโบรบลาสต์ ผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินเพิ่มขึ้นในระยะยะยาว ทำให้ผิวสุขภาพดีขึ้นแบบยั่งยืน	Filler ช่วยเติมเต็มผิว แทนคอลลาเจนที่สลายไป ทั้งยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น และลดริ้วรอยให้ผิว เช่น ฟิลเลอร์งานผิว Belotero Revive ที่ช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นให้ผิว
ระยะเวลาเห็นผล	Sculptra เน้นการฟื้นบำรุงผิวแบบล้ำลึก จะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงในช่วง 2-4 สัปดาห์หลังฉีด และสามารถคงผลลัพธ์ได้ยาวนานถึง 25 สัปดาห์	การฉีดฟิลเลอร์ทั่วไปสามารถเห็นผลได้เลยทันทีหลังฉีด ฟิลเลอร์งานผิวจะเริ่มเห็นผลในช่วงสัปดาห์แรกหลังฉีด โดยสามารถคงผลลัพธ์ได้สูงสุด 6-24 เดือน
จำนวนครั้งที่ต้องฉีด	Sculptra จะต้องฉีดในช่วงแรก 2-3 ครั้ง ควรฉีดทุก ๆ 4-6 สัปดาห์ เพื่อปรับสภาพผิว หลังจากนั้นสามารถฉีดปีละ 1 ครั้ง เพื่อคงผลลัพธ์ให้ต่อเนื่องได้	การฉีดฟิลเลอร์จะฉีดเพียง 1 ครั้ง และรอให้ฟิลเลอร์สลายไปเอง หากต้องการผลลัพธืที่ต่อเนื่องสามารถเติมซ้ำหลังสลายได้
ยี่ห้อ	Sculptra เป็น Collagen Biostimulator ที่ในตอนนี้มีเพียงยี่ห้อเดียว ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานจาก US-FDA และปลอดภัย	ฟิลเลอร์งานผิวมีให้เลือกหลากหลายยี่ห้อ ที่มีความปลอดภัย ซึ่งแต่ละยี่ห้อก็จะมีคุณสมบัติ และตัวเนื้อฟิลเลอร์แตกต่างกันไป เช่น Juvederm Volite, Restylane vital light, Belotero Revive เป็นต้น
ราคา	2x,xxx – 3x,xxx บาท	1x,xxx – 2x,xxx บาท
อยู่ได้นานเท่าไหร่	อยู่ได้นานถึง 1-2 ปี *ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองของแต่ละบุคคล	อยู่ได้นานถึง 6-12 เดือน *ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์

ทั้งนี้หัตถการ Sculptra และ filler เป็นหัตถการที่ต้องดูแลโดยแพทย์ผู้ชำนาญการ และมีประสบการณ์สูง เพราะต้องใช้เทคนิค และความชำนาญในการฉีด หากเลือกฉีดที่คลินิกที่ไม่มีมาตรฐาน หรือเลือกฉีดกับหมอกระเป๋า อาจจะทำให้เกิดการติดเชื้อ และเกิดอันตรายต่อชีวิตได้ ดังนั้นหากต้องการเข้ารับการรักษาทั้ง 2 หัตถการ สามารถเข้ารับคำปรึกษากับแพทย์ได้ที่ วันดี คลินิก ทุกสาขา

Sculptra vs filler เลือกตัวไหนดี?

คำถามที่หลาย ๆ คนอาจจะสงสัย ถ้าหาก Sculptra และ filler มีคุณสมบัติที่ใกล้เคียงกัน ดังนั้นระหว่าง Sculptra vs filler ควรเลือกฉีดตัวไหนดี?

Sculptra เป็นหนึ่งในสกินบูสเตอร์ที่เหมาะสำหรับการดูแลฟื้นฟูผิวหน้าอย่างล้ำลึก และช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และอิลาสตินใต้ผิวหนังได้อย่างยั่งยืน ทำให้ปรับโครงสร้างผิวให้แข็งแรง ช่วยบำรุงผิวให้ดูชุ่มชื้น อิ่มฟู ริ้วรอยดูจางลง ปรับผิวให้แลดูกระจ่างใส และใบหน้าดูอ่อนเยาว์ลง จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไปที่มีปัญหาริ้วรอย หน้าดูแห้งกร้าน หย่อนคล้อย
Filler เป็นสารเติมเต็มที่ฉีดเพื่อทดแทนการสลายไปของคอลลาเจน ช่วยปรับรูปหน้า เติมเต็มเฉพาะจุด และเพิ่มมิติให้กับใบหน้า และช่วยฟื้นฟูผิวให้ดูอิ่มฟู ฉ่ำวาว ดูกระจ่างใส ให้ผิวโกลว์สวย จึงเหมาะสำหรับคนที่มีปัญผิวหน้าแห้ง ไม่กระจ่างใส อยากเติมความชุ่มชื้นให้ผิวดูฉ่ำวาว ผิวกระจก

ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการประเมินสภาพผิวของแพทย์ และความต้องการของคนไข้ว่าต้องการเลือกรักษาด้วยหัตถการใด

รีวิวจากผู้ใช้งานจริง Sculptra

รีวิวจากผู้ใช้งานจริง filler

ฉีด Sculptra และ filler ที่ไหนดี ?

ใครที่กำลังมองหาคลินิกฉีก Sculptra และ filler ฉีดที่ไหนดี ที่มีความปลอดภัย และไว้วางใจได้ ต้องที่ Wandee Clinic คลินิกเวชกรรมเสริมความงามครบวงจร โดดเด่นเรื่องการเติมเต็มผิว และปรับรูปหน้า โดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ที่มีประสบการณ์สูง ทำไมต้องทำสวยที่วันดี คลินิก เรามีคำตอบ

Wandee Clinic เป็นคลินิกเวชกรรมที่มีคุณภาพ มีมาตรฐานระดับสากล สะอาด ปลอดภัย ผ่านการอนุมัติรับรองมาตรฐานจากกระทรวงสาธารณสุข เราเลือกใช้เครื่องมือทางการแพทย์ และตัวยาที่คลินิกใช้ล้วนผ่านการรับรองมาตรฐานระดับสากล ที่เป็นของแท้สามารถตรวจสอบได้
วันดี คลินิกเราพร้อมให้บริการฉีด Sculptra และ filler ด้วยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการปรับแต่งรูปหน้า และการฉีดฟิลเลอร์ แพทย์ของเราผ่านการฝึกอบรม/เทรนนิ่ง เทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ และ เทรนฉีด Sculptra จากบริษัท และผู้เชี่ยวชาญเป็นประจำ และคอยอัปเดตเทรนการฉีดใบหน้าตลอดทั้งปี
Wandee Clinic เลือกใช้เป็นฟิลเลอร์แท้ นำเข้าอย่างถูกต้องตามกฎหมายโดยบริษัท สามารถตรวจสอบฟิลเลอร์แท้ และหมายเลข การผลิตได้ทุกกล่อง
เราพร้อมให้บริการฉีด ฉีด Sculptra เพื่อแก้ไขปัญหาผิวหน้าได้ครอบคลุมทุกจุด ช่วยฟื้นฟูผิวถึงระดับโครงสร้าง กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และช่วยคงความอ่อนเยาว์ให้ผิวดูเด็กลง และอยู่ได้นานถึง 2 ปี
เราพร้อมให้บริการฉีด ฉีดฟิลเลอร์ เพื่อแก้ไขปัญหาผิวหน้าได้ครอบคลุมสามารถฉีดเติมเต็มผิวได้ทั่วทุกบริเวณบนใบหน้า ทั้งการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ฟิลเลอร์ขมับ ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ฟิลเลอร์กรอบหน้า และฟิลเลอร์คาง รวมถึงฟิลเลอร์งานผิวที่ช่วยปรับสภาพผิวให้สุขภาพดี เติมเต็มความชุ่มชื้น ให้ผิวดูฉ่ำวาว เหมือนผิวกระจก

สรุป

Sculptra vs filler ถือเป็นตัวเลือกที่จะช่วยตอบโจทย์ปัญหาผิวสำหรับสาว ๆ ที่อยากจะฟื้นฟูผิวหน้าให้แข็งแรง เติมเต็มความชุ่มชื้นให้ผิวดูอิ่มฟู ฉ่ำวาว แลดูกระจ่างใส สุขภาพดี แต่อย่างไรก็ตาม Sculptra กับ filler ก็มีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน สำหรับใครที่อยากจะฟื้นูผิว สามารถเข้ามาปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินปัญหาผิวว่าควรรักษาด้วยหัตถการแบบไหน ได้ที่ วันดี คลินิก ทุกสาขา