ปัญหานี้พึ่งมีมาไม่นานเท่าไหร่ค่ะเริ่มจาก มีฝุ่น PM 2.5 ผู้คนก็หันมาใส่แมสกันมากขึ้นและเมื่อปี 2019 ก็ได้มีการระบาดของเชื่อไวรัส โคโลน่า ในประเทศไทย แมสก็เลยกลายเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องใส่มันไว้เพื่อปกป้องการระบาด และลากยาวมาจน ปัจจุบัน เรามีคำตอบ เมโสหน้าใส

จากการต้องใส่ทั้งวัน ใส่เป็นชีวิตประจำวันจึงทำให้เกิดการละคายเคืองผิวหน้า ทำให้เกิดการอับชื้น หมักหมมของเชื่อแบรคทีเรียที่มาจากเหงื่อ หรือน้ำลาย ไปอุดตันรูขุมขนของเราทำให้เกิดสิวค่ะ วันนี้เรามีวิธีแก้ปัญหามาฝากกันค่ะ

สิวแพ้แมสคืออะไร

ปัญหาผิวแพ้แมสสิวขึ้น เราสามารถสังเกตง่าย ๆ ว่า สิวที่เกิดขึ้นมานั้นเป็นสิวจากแมสหรือไม่ คือ ลองดูว่าเมื่อใส่แมสไประยะหนึ่งแล้วมีสิวขึ้นบริเวณผิวหนังด้านในที่แมสปิดทับ นอกจากนี้บางรายอาจมีอาการแพ้แมส เช่น คันบริเวณใบหน้า มีตุ่มเล็ก ๆ ขึ้นเป็นผดผื่นร่วมด้วย

ทำไมใส่แมสแล้วจึงเป็นสิว?

การเกิดสิวบริเวณหน้า เพราะเกิดการเสียดสีบริเวณนั่นเองค่ะ เนื่องจากเวลาที่ใส่หน้ากากอนามัยนั้น แมสก์จะติดสัมผัสกับผิวหน้าเรา เหมือนเกราะที่ปิดกั้นการระเหยของเหงื่อและน้ำมันที่สร้างจากผิวของเรา รวมทั้งอาจมีน้ำลายที่มาติดที่แมสก์ จากการพูดหรือจามด้วย ไปกระตุ้นให้เกิดการอุดตันของรูขุมขน และทำให้เกิดสิวขึ้นค่ะ

สิวแพ้แมสเกิดจากอะไร ?

การเสียดสีของแมสกับผิวหนัง ในเวลาที่เราใส่หน้ากากอนามัยจะเกิดการเสียดสีกับผิว จนทำให้เกิดปัญหาผิวระคายเคือง ผิวบอบบางลง เกราะปกป้องผิวอ่อนแอ ทำให้เกิดสิวและผดผื่น ยิ่งหากมีผิวบอบบางแพ้ง่ายอยู่แล้วก็จะเกิดการระคายเคืองได้ง่ายมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นสาเหตุให้เกิดปัญหาสิวอุดตันอีกด้วย อากาศไม่ถ่ายเท เกิดความอับชื้น การใส่หน้ากากอนามัยทั้งวันหรือหลายชั่วโมงติดต่อกัน ทำให้เวลาเราหายใจ พูดคุย อากาศไม่ถ่ายเท หรือระบายอากาศไม่ได้จนเกิดความอับชื้น เมื่อไอน้ำที่เกิดจากความอับชื้นมารวมกับอากาศร้อน ๆ ภายในแมส จึงกลายเป็นแหล่งสะสมสิ่งสกปรกและแบคทีเรียมากกว่าปกติ ในบางรายอาจแค่ระคายเคือง แต่บางรายอาจเกิดการอุดตันในรูขุมขนจนเป็นสิวนั่นเอง ใส่แมสแล้วสิวขึ้นแก้ยังไง

ปัญหาของการใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา

• เกิดความอับชื้น ที่เกิดจากเหงื่อ และละอองจากการไอจาม ความชื้นของเหงื่อ ที่อยู่ในหน้ากากทำให้เกิดการสะสมของแบคทีเรียและเชื้อราในปริมาณที่มากกว่าปกติ ทำให้เกิดการติดเชื้อ แล้วก่อให้เกิดการอักเสบ
• เกิดการเสียดสี หากใส่แมสที่ขนาดไม่พอดีกับหน้า หรือมีขนาดใหญ่เกินไปเวลาที่เราขยับหน้าบ่อยๆตัวแมสจะมีการเสียดสีกับใบหน้าเราทำให้เกิดการระคายเคืองและอักเสบ
• เกิดรอยกดทับบนใบหน้า ในกรณีที่แมสมีขนาดเล็กเกินไป ช่วงบริเวณที่ขอบและสายคล้องก็จะรัดแน่น เมื่อใส่เป็นเวลานานๆ ก็จะทำให้ใบหน้าเกิดริ้วรอยได้
• เกิดผื่นแพ้ จากความอับชื้นของเหงื่อ และการเสียดสีแมสที่ใส่ ทำให้ผิวหน้ามีผื่นแดงและอาจมีอาการคันเกิดขึ้น
• การเกิดสิวและการอุดตัน ที่จริงแล้วการใส่แมสนั้น เป็นตัวกระตุ้นให้ผิวเกิดปัญหาสิวขึ้นได้ ทั้งในคนที่แต่งหน้าและไม่แต่งหน้า แต่หากมีการแต่งหน้าและมีการใส่แมสอยู่อาจทำให้เกิดเหงื่อขึ้น และจะยิ่งเป็นตัวกระตุ้นทำให้ผิวเกิดการอุดตันได้ง่ายขึ้น

แล้วควรสิวแพ้แมสยังไงดี

• สำรวจผิว ลองสำรวจผิวหน้าของเราว่าใส่แมสประเภทใดแล้วมีอาการผื่นคัน หรือสิวขึ้น เช่น แมสผ้า แมสที่ทำจากวัสดุสังเคราะห์ เมื่อรู้สาเหตุแล้วควรหลีกเลี่ยงแมสประเภทนั้นทันที เพื่อไม่ให้อาการลุกลาม
• เปลี่ยนแมสทุกวัน ควรเปลี่ยนแมสหรือหน้ากากอนามัยทุกวันเพื่อประสิทธิภาพในการใช้งาน หรือหากใช้หน้ากากผ้าควรซักด้วยน้ำยาซักผ้าเด็กเพื่อป้องกันการระคายเคืองผิว จากนั้นนำไปตากแดดเพื่อฆ่าเชื้อโรค
• ลดการแต่งหน้า เมื่อเครื่องสำอางเจอกับความอับชื้นจากการใส่แมส ก็ง่ายต่อการเกิดสิวได้
• การทำความสะอาดผิวหน้า เมื่อถอดแมสออกควรล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าทันที เพื่อกำจัดสิ่งสกปรกและแบคทีเรียที่สะสมบนใบหน้า
• เข้าคลินิกความงามค่ะโดยใช้เมโสเชเลป (Meso celep) ลดสิวที่เกิดจากแมชได้ค่ะ สามารถเข้ามาปรึกษาได้ที่วันดีคลินิกเราได้ค่ะ

The post ใส่แมสแล้วสิวขึ้นแก้ยังไง ปัญหาโลกแตกของหลายๆคน เรามีคำตอบ เมโสหน้าใส appeared first on WandeeClinic วันดี คลินิกฉีดฟิลเลอร์ โบท็อเสริมจมูกที่ไหนดี ศัลยกรรม .

เมโสหน้าใส หรือ Mesotheraphy เป็นการฉีดวิตามินและสารสกัดที่มีประโยชน์เข้าสู่ผิวโดยตรง เพื่อบำรุง PRP ฟื้นฟูผิวที่เสื่อมสภาพและแก้ปัญหาต่างๆ บนผิวหน้า ทำให้ผิวชุ่มชื้น ขาวกระจ่างใส ลดการอักเสบ ช่วยขับสารพิษที่สะสมและทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น  โดยการทำจะใช้เข็มฉีดตัวยากระจายเป็นจุดเล็กๆ ในผิวชั้นตื้นทั่วทั้งหน้าเรียกว่า mesotherapy ข้อดีของการใช้เข็มจิ้มเป็นจุดเล็กๆ ทั่วหน้า จะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนไปด้วยในตัว

Top Face

หน้าที่ของ Top Face คือทำให้สภาพผิวตื้นขึ้น และเรียบเนียนขึ้น อีกทั้งยังกระตุ้นเซลล์ผิวใหม่ และซ่อมแซมระดับเซลล์ กระตุ้นสร้างคอลลาเจนเพิ่มความชุ่มชื้นล้ำลึกระดับ DNA ลดรอยแดงสิว และรอยจุดด่างดำ ต่อต้านอนุมูลอิสระ ลดเลือนริ้วรอย ต่อต้านการอักเสบ และบรรเทาอาการปวด Anti-Aging Therapy   

      Top Face มีสาร Steroidal Saponin ช่วยจับกับน้ำตาลชนิดต่างๆนอกจากนี้ยังมี Essential Oil, Trisaccharides Peptidoglycan, Nucleosieds และยังพบว่า Ginsenosides ในรากแขนงยังมีสารสกัดที่ช่วยให้มีผลในการชะลอกระบวนการเสื่อมชราให้ช้าลงและทำให้ร่างกายคงความสดใสและดูอ่อนเยาว์ได้ยิ่งขึ้นช่วยลดอาการผิวแห้งและผิวหนังเหี่ยวย่นช่วยให้ผิวชุ่มชื่นมากขึ้นน

ประโยชน์ของการรักษาด้วย  Top Face

ช่วยฟื้นฟูผิวให้กลับมาสดใสเปล่งปลั่งชุ่มชื้นอ่อนกว่าวัยยิ่งขึ้นทำให้ผิวผ่อนคลายมีความยืดหยุ่นมากขึ้นช่วยกระตุ้นคอลลาเจนช่วยแก้ปัญหารอยแดงรอยดำผิวหมองคล้ำบริเวณผิวที่บอบบางลดอาการบวมของถุงใต้ตา ช่วยบำรุงฟื้นฟูผิวรอบดวงตาให้ดูสดใส

การดูแลหลังฉีด

1. สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติทันที เช่น การแต่งหน้า ออกกำลังกาย
2. ทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป เพื่อป้องกันแสงแดด
3. งดการทำทรีตเมนต์และเลเซอร์อื่น ๆ ประมาณ 1-2 สัปดาห์
4. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ดื่มน้ำเยอะ ๆ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

รู้หรือไม่

การฉีด PRP (Platelet Rich Plasma) ที่รากผม  คือ การนำเลือดของผู้ที่เข้ารับการฉีด นำมาฉีดบริเวณหนังศีรษะของผู้ป่วย จะช่วยซ่อมแซมและฟื้นฟูการทำงานของเซล์ต่างๆ บริเวณรากผม และกระตุ้นให้เซลล์รากผมที่เคยหยุดทำงานกลับมาสร้างผมเส้นใหม่อีกครั้ง

TopFacePRPแตกต่างกัน

P.R.P

PRP หรือ PLATELET RICH PLASMA คือ การสกัดเอาเกล็ดเลือดส่วนที่เป็นของเหลวหรือน้ำเลือด ( Plasma ) ซึ่งอุดมไปด้วยเกร็ดเลือด ( Platelet ) มีโปรตีนและเซลล์จากกระแสเลือดเข้มข้น ใช้ในการรักษา ข้อสำคัญ คือ ไม่อันตรายเนื่องจากเป็นส่วนประกอบจากเลือดของผู้ป่วยเอง

     ข้อควรปฏิบัติก่อนฉีด

ขั้นตอนในการเตรียมตัวการเตรียมตัวมาฉีดคือ พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำมาก ๆ โดยใช้เวลาประมาณ 20 นาที ผลข้างเคียงค่อนข้างน้อยถึงแทบจะไม่มีเลย เนื่องจากเป็นเลือดของตัวเอง ซึ่งมีข้อระวังอยู่ว่าถ้าเกิดอาการป่วยอยู่ขอให้รักษาหายดีก่อนเพราะอาจจะมีเชื้อโรคอยู่ในกระแสเลือดเนื่องจากเป็นเลือดของเราเอง

ประโยชน์ของการรักษาด้วย PRP

1. ช่วยรักษา ลดการบาดเจ็บและ กระตุ้นการฟื้นตัวจากการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อและเส้นเอ็น โดยเฉพาะการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬาอาจส่งผลต่อข้อต่อ เอ็น กล้ามเนื้อและเนื้อเยื่ออ่อนอื่น ๆ ของร่างกาย
2. ให้การบรรเทาอาการปวดในภาวะเข่าเสื่อม osteoarthrosis
   ผู้ป่วยโรคข้อเข่าเสื่อมที่มีอาการปวดเข่าอย่างรุนแรงจะได้รับประโยชน์อย่างมากจากการรักษาด้วย P.R.P. เนื่องจาก ช่วยคืนความเข้มข้นของกรดไฮยาลูโรนิกในหัวเข่าและการกระตุ้นการฟื้นตัวของกระดูกอ่อนที่หุ้มข้อเข่า
3.  มีประสิทธิภาพในการลดปวดและลดการอักเสบ
   ตัวอย่างเช่น อาการปวดหลังเรื้อรัง กลุ่มอาการ Office Syndrome เป็นต้น
4. การรักษาผมร่วงแบบธรรมชาติ P.R.P. สามารถช่วยลดการเกิดผมร่วงและกระตุ้นรากผมให้เจริญเติบโตขึ้นใหม่ และยังช่วยกระตุ้นการฟื้นตัวของเซลล์จากแผลหลังผ่าตัดได้

ฉีดหน้าใส 2022 , ฉีดเมโสหน้าใส , ฉีดใต้ตา2022 ,  ฉีด PRP 2022 , ฉีด Top Face 2022

#Fatขายดีที่สุดแห่งปี 𝐃𝐢𝐚𝐦𝐨𝐧𝐝 𝐅𝐚𝐭 𝐖𝐚𝐧𝐝𝐞𝐞 𝐂𝐥𝐢𝐧𝐢𝐜 การันตียอดขายเยอะที่สุดด้วยรางวัล 𝐓𝐨𝐩 𝐕𝐚𝐥𝐮𝐞𝐝 𝐂𝐮𝐬𝐭𝐨𝐦𝐞𝐫 𝟐𝟎𝟐𝟐 𝐃𝐞𝐫𝐦𝐚𝐞𝐬𝐭𝐡𝐞𝐭𝐢𝐜 𝐓𝐡𝐚𝐢𝐥𝐚𝐧𝐝

การันตีรางวัลยอดสั่งซื้อเยอะที่สุด 2022
มั่นใจตัวยาของแท้จากบริษัท
รีวิวลูกค้าเยอะอันดับ1
ดูแลโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

The post Top Face และ PRP (Platelet Rich Plasma) มีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง appeared first on WandeeClinic วันดี คลินิกฉีดฟิลเลอร์ โบท็อเสริมจมูกที่ไหนดี ศัลยกรรม .

……….ความนิยมในการรับประทานคอลลาเจน ในปัจจุบันนี้มีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เราจะได้เห็นผลิตภัณฑ์ประเภท Collagen ออกวางจำหน่ายในท้องตลาดเพิ่มมากขึ้น คอลลาเจนในบ้านเรา มีหลากหลายยี่ห้อ หลากหลายคุณสมบัติ จนบางครั้งเราอาจจะสับสนไม่รู้ว่าอะไรคือสิ่งที่ดีที่สุดคือสิ่งที่เหมาะสมกับร่างกาย แต่สิ่งที่รู้คือ คอลลาเจนมีผลทำให้ผิวพรรณเราเปล่งปลั่งสดใสคืนความยืดหยุ่นกระชับ ทำให้เราดูเด็กลงอีกครั้ง แต่นอกจากประโยชน์ในด้านความงามแล้ว คอลลาเจนยังมีประโยชน์ในการรักษาโรค ซึ่งอาจจะส่งผลดี ต่อผู้ที่กำลังประสบปัญหาเกี่ยวกับโรคข้อต่างๆ ไปฟังประโยชน์ที่คุณอาจจะได้รับจากการรับประทานคอลลาเจนพร้อมกัน

3 ประโยชน์ของคอลลาเจน ช่วยรักษาโรคข้อต่างๆ

โรคข้อต่างๆถือได้ว่าเป็นโรคที่สร้างความทรมานให้กับผู้ที่ประสบเป็นอย่างมาก และการที่จะต้องใช้ชีวิตอยู่กับอาการเจ็บปวด คงไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่ ดังนั้นถ้าหากเราสามารถทุเลาอาการเจ็บปวดเหล่านั้นได้ด้วยการรับประทานคอลลาเจน คงจะเป็นเรื่องที่ดีไม่น้อย และประโยชน์จากการทานคอลลาเจน จะช่วยรักษาโรคข้อต่างๆได้ในส่วนไหนบ้าง ดังนี้

• โรคข้อเสื่อม

สำหรับผู้ป่วยที่กำลังเผชิญปัญหาเกี่ยวกับการเสื่อมของข้อกระดูก มีงานวิจัยศึกษาพบว่า คอลลาเจนชนิดที่ 2 มีประสิทธิภาพในการรักษาโรคข้อเสื่อมได้ โดยผ่านกระบวนการย่อยบางส่วนต่อการรักษาโรคข้อเสื่อมหรือความผิดปกติ ที่มีต่อข้อต่อชนิดอื่นๆ คอลลาเจนชนิดที่ 2 จะสามารถดูดซึมผ่านลำไส้และไปสะสมในกระดูกอ่อน ซึ่งจะมีผลในการรักษาโรคข้อเสื่อมให้ทุเลาลงได้นั่นเอง

• โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์

โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ เกิดจากความผิดปกติที่เกิดการอักเสบของเยื่อหุ้มกระดูกข้อต่อ ซึ่งเชื่อกันว่า มีที่มาจากปฏิกิริยาของสารก่อภูมิต้านทานภายในข้อต่อ ซึ่งพบว่าคอลลาเจนชนิดที่ 2 เป็นโปรตีนชนิดหลักในกระดูกอ่อนของข้อต่อ และยังเป็นสารก่อภูมิต้านทานที่สำคัญ มีงานวิจัยให้ผลลัพธ์ว่า คอลลาเจนชนิดที่ 2 ช่วยลดความรุนแรง และในผู้ป่วยบางรายที่มีอาการบวมและพกช้ำในข้อต่อ พบว่าอาการเหล่านั้นลดน้อยลง จากการรับประทานคอลลาเจนชนิดที่ 2 อย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 3 เดือน

• อาการปวดอื่นๆ

คอลลาเจนชนิดที่ 2 ช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวด แม้กระทั่งในผู้ที่ไม่ได้มีโรคข้อและกระดูก ไม่ว่าจะเป็นอาการปวดข้อหลังจากการผ่าตัด อาการปวดหลังจากการได้รับบาดเจ็บ อาการปวดหลัง ปวดคอ โดยมีการทดลอง ในสมาชิกชมรมกีฬามหาวิทยาลัย แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มที่รับประทานเครื่องดื่ม 25 ml มีส่วนผสมของ collagen ชนิดที่ 2 ประมาณ 10 กรัม และอีกกลุ่มทานยาหลอกเป็นระยะเวลาต่อเนื่อง 24 สัปดาห์ ผลปรากฏว่ากลุ่มนักกีฬาที่รับประทานเครื่องดื่มผสมคอลลาเจนมีอาการปวดข้อลดลง

สำหรับผู้ที่มีอาการปวดข้อ อาการต่างๆ เกี่ยวกับโรคข้อกระดูก สามารถซื้อหาคอลลาเจนมารับประทานได้ในปริมาณที่เหมาะสม และควรเลือกคอลลาเจน ที่มีประสิทธิผลในการดูแลเรื่องโรคข้อต่างๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ

วันดี คลินิก ขอนแก่น (wandee clinic ) คลินิกความงาม ที่ได้มาตรฐาน ครบวงจร พร้อมมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมีความยินดีที่จะให้บริการ และคอยให้คำปรึกษาแก่คุณลูกค้าทุกท่านและแก้ปัญหาที่คุณต้องการ ไม่ว่าจะเป็น ฉีดวิตามินผิว , วิตามินผิว ขอนแก่น , ฉีดผิวขาว , คลินิก ขอนแก่น , ผิวขาว ขอนแก่น อย่างเป็นกันเองค่ะ
สามารถสอบถามเพิ่มเติมที่:
วันดี คลินิก  344/17 ซอยรื่นรมย์ ต.ในเมือง อ.เมือง ขอนแก่น 40000
Tel: 097-9355556
Line: @wandeeclinic
Line คลิกที่ : https://line.me/R/ti/p/%40wandeeclinic
เว็บไซต์ :   www.wandeeclinic.com

The post 3 ประโยชน์ของคอลลาเจนต่อการรักษาโรค appeared first on WandeeClinic วันดี คลินิกฉีดฟิลเลอร์ โบท็อเสริมจมูกที่ไหนดี ศัลยกรรม .

……….Collagen type 2 หรือคอลลาเจนชนิดที่ 2 ถือได้ว่าเป็นคอลลาเจนที่มีประโยชน์มากต่อร่างกาย และเป็น Collagen หลักที่มีอยู่เยอะที่สุดในร่างกาย ถึงแม้ว่าร่างกายจะสามารถสร้างคอลลาเจนขึ้นมาเองได้ แต่ท้ายที่สุดแล้วเมื่ออายุเราเพิ่มมากขึ้น ตั้งแต่อายุ 20 ปีขึ้นไป ร่างกายเราก็จะผลิตคอลลาเจนได้น้อยลง นอกจากนี้แล้ว ยังไม่นับรวมปัจจัยอื่นๆที่มีผลต่อการเสื่อมลงของคอลลาเจน หรือการที่ปริมาณคอลลาเจนในร่างกายจะลดลง นั่นก็คือ การเจออนุมูลอิสระ ไม่ว่าจะเป็นแสงแดด ฝุ่นควัน มลภาวะ ความเครียด การพักผ่อนน้อย และการเจอรังสี UV ต่างๆเหล่านี้คือปัจจัยที่สำคัญที่ช่วยกระตุ้น ให้เขาลาเจนเสื่อมสลายไปตามธรรมชาตินั่นเอง การรับประทานคอลลาเจน จึงมีความสำคัญและจำเป็นมาก ต่อการช่วยฟื้นฟูซ่อมแซม และช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสามารถสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ได้อีกครั้ง แต่การเลือกซื้อคอลลาเจนซึ่งมีมากถึง 4 ประเภทนั้น เราควรเลือกซื้ออย่างไร คอลลาเจนยี่ห้อไหนดี

……..คอลลาเจนที่มีมากถึง 4 ประเภท ตั้งแต่คอลลาเจนชนิดที่ 1 คอลลาเจนชนิดที่ 2 คอลลาเจนชนิดที่ 3 และคอลลาเจนชนิดที่ 4 ให้เราโฟกัสไปที่ คอลลาเจนชนิดที่ 2 เนื่องจากเป็นคอลลาเจนที่พบมากที่สุดในร่างกาย และมีประโยชน์มาก ไม่เพียงแค่มีประโยชน์ในเรื่องของผิวพรรณเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์ในเรื่องของการดูแลและบำรุงปกป้องความแข็งแรงของกระดูกข้อต่อ กระดูกอ่อนต่างๆ รวมไปถึงการช่วยให้ร่างกายกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ได้อีกครั้ง การเลือกซื้อคอลลาเจน คอลลาเจนยี่ห้อไหนดี จึงควรเป็น Collagen type 2 นั่นเอง แล้ววันนี้เราไปดูกันว่า คอลลาเจนที่มีอยู่ตามท้องตลาด ปัจจุบันนี้ยี่ห้อไหนบ้างที่เป็น Collagen type 2

3 Collagen type 2 หรือคอลลาเจนชนิดที่ 2

• Nabi collagen

…….คอลลาเจนยี่ห้อนี้ เป็นคอลลาเจนสัญชาติญี่ปุ่น มีส่วนประกอบของไตรเปปไทด์ แคลเซียม L Theonate ซึ่งสามารถดูดซึมได้ดีกว่าแบบคาร์บอเนต ได้ถึง 6 ถึง 9 เท่า และยังมีผลในเรื่องของการดูแลกระดูกข้อต่อข้อเข่า มีวิตามินและสารสกัดจากใบบัวบก ซึ่งเป็นจุดเด่นที่ไม่เหมือนใคร และช่วยเรื่อง ผิวฝ้ากระจุดด่างดำและริ้วรอยให้ดูจางลง

• Silver Collagen type 2

…….คอลลาเจนยี่ห้อนี้มีความโดดเด่นตรงที่เป็นคอลลาเจนผสมแคลเซียม และยังมีวิตามินซี Vitamin D3 วิตามิน K2 ซึ่งช่วยเสริมสร้างการดูดซึมของคอลลาเจนให้ได้ดีมากยิ่งขึ้น และเต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับผู้สูงวัยที่ต้องการบำรุงข้อเข่ากระดูก นอกจากนี้แล้วยังเป็น Collagen 0% fat 0% Sugar ไม่มีน้ำตาลดื่มง่ายไม่ทำให้อ้วนอีกด้วย

• Coligi Collagen

…….อีก 1 คอลลาเจนที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเนื่องจากเป็น Collagen type 2 ซึ่งนอกจากช่วยเรื่องการบำรุงผิวพรรณ แล้วยังช่วยบำรุงข้อต่อ ข้อเข่า ให้กลับมาแข็งแรง ลดอาการเจ็บปวดจากโรคข้อต่างๆได้ดีอีกด้วย

และนี่คือ 3 ยี่ห้อคอลลาเจน Collagen type 2 ที่ราคาไม่แรง คอลลาเจนยี่ห้อไหนดี และมีประโยชน์ต่อร่างกาย สามารถช่วยดูแลและเสริมสร้างเซลล์ทำให้ผิวพรรณกลับมาเปล่งปลั่งเนียนนุ่ม กระจ่างใสไร้ริ้วรอย เต่งตึงขึ้นอีกครั้ง และมีผลต่อสุขภาพในเรื่องของการดูแลกระดูกและข้อต่ออีกด้วย

วันดี คลินิก ขอนแก่น (wandee clinic ) คลินิกความงาม ที่ได้มาตรฐาน ครบวงจร พร้อมมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมีความยินดีที่จะให้บริการ และคอยให้คำปรึกษาแก่คุณลูกค้าทุกท่านและแก้ปัญหาที่คุณต้องการ ไม่ว่าจะเป็น ฉีดวิตามินผิว , วิตามินผิว ขอนแก่น , ฉีดผิวขาว , คลินิก ขอนแก่น , ผิวขาว ขอนแก่น อย่างเป็นกันเองค่ะ
สามารถสอบถามเพิ่มเติมที่:
วันดี คลินิก  344/17 ซอยรื่นรมย์ ต.ในเมือง อ.เมือง ขอนแก่น 40000
Tel: 097-9355556
Line: @wandeeclinic
Line คลิกที่ : https://line.me/R/ti/p/%40wandeeclinic
เว็บไซต์ :   www.wandeeclinic.com

The post 3 คอลลาเจนไทพ์ทู ยี่ห้อต่างๆ ราคาไม่แรง คอลลาเจนยี่ห้อไหนดี appeared first on WandeeClinic วันดี คลินิกฉีดฟิลเลอร์ โบท็อเสริมจมูกที่ไหนดี ศัลยกรรม .

ในร่างกายของคนเรามีส่วนประกอบต่างๆ มากมาย และมีสารประกอบสำคัญต่างๆที่สำคัญอีกมากมายด้วยเช่นกัน และหนึ่งในนั้นก็คือ คอลลาเจน ซึ่งจัดเป็นโปรตีนที่อยู่ในร่างกายของคนเราซึ่งพบได้มากที่สุด โดยคิดเป็น 1 ใน 3 ของโปรตีนทั่วร่างกายนั่นเอง และเมื่อคอลลาเจนเป็นส่วนประกอบที่มีความสำคัญมาก มันจึงส่งผลต่อส่วนต่างๆของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นผิวหนัง กระดูก กล้ามเนื้อ ข้อต่อต่างๆ รวมไปถึงผม เล็บ และเส้นเอ็นอีกด้วย นอกจากนี้แล้วยังมีคอลลาเจนปรากฏอยู่ในส่วนต่างๆของร่างกายอีกมากมาย อาทิเช่น หลอดเลือด กระจกตา ฟัน เป็นต้น และนี่คือเหตุผล ว่าทำไมเราจึงจำเป็นต้องรับประทานคอลลาเจน เพื่อให้มันเข้าไปช่วยเสริมสร้างและซ่อมแซมส่วนต่างๆของร่างกายนั่นเอง

ความจริงของคอลลาเจนที่คุณต้องรู้

จริงอยู่ว่าร่างกายของคนเรามีคอลลาเจนเป็นส่วนประกอบ และร่างกายของคนเราสามารถสร้างคอลลาเจน ขึ้นมาเองได้ แต่เมื่ออายุ 25 ปีเป็นต้นไป ความสามารถในการผลิตคอลลาเจนจะลดน้อยลง และเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น คอลลาเจนของเราจะลดลง 1 เปอร์เซ็นต์ต่อ 1 ปี ยังไม่นับรวมปัจจัยอื่นๆที่ทำให้เราสูญเสียคอลลาเจน เมื่อร่างกายขาดคอลลาเจน จึงทำให้เซลล์และส่วนต่างๆของร่างกาย เกิดการสึกหรอ และอ่อนแอลง ซึ่งมันจะฟ้องออกมาทางความเสื่อมที่เรามองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ไม่ว่าจะเป็น ผิวหนังที่เริ่มหย่อนคล้อยไม่เต่งตึงเหมือนเดิม ผมขาดหลุดร่วงง่ายขึ้น เล็บเปราะบางมากขึ้น ดวงตาเมื่อยล้า ปวดกระดูกกล้ามเนื้อและข้อต่อมากขึ้น และมีโรคอื่นๆ อีกมากมายเกิดขึ้นกับร่างกายของคนเรา ทั้งหมดนี้เป็นผลมาจากการขาดคอลลาเจน ทั้งสิ้น

4 จุดสำคัญของร่างกาย กับคอลลาเจน

เมื่อคอลลาเจน คือส่วนประกอบของร่างกาย เราสามารถจำแนกจุดต่างๆที่มีคอลลาเจนประกอบอยู่มากที่สุด ออกเป็น 4 จุดสำคัญ ได้ดังนี้

• บริเวณผิว มีคอลลาเจนมากถึง 75 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้นเมื่อขาดคอลลาเจน มันจึงส่งผลฟ้องออกมาทางสภาพผิวที่เสื่อมโทรมลงก่อนเป็นอันดับแรก และเห็นผลได้อย่างชัดเจน
• บริเวณกระดูกอ่อน มีคอลลาเจน มากถึง 50 เปอร์เซ็นต์ และเมื่อขาดคอลลาเจน เราจึงมักจะประสบปัญหาข้อต่อไม่แข็งแรง ปวดกระดูกข้อต่อ ข้อเข่า เป็นต้น
• บริเวณกระดูก มีคอลลาเจนมากถึง 23 เปอร์เซ็นต์ และเมื่อขาดคอลลาเจน เราจึงมีกระดูกที่เปราะบางลง การรับประทานคอลลาเจนจึงจะเข้าไปช่วยเสริมสร้างมวลกระดูกให้มีความหนาแน่นเพิ่มมากขึ้น
• เส้นเลือดใหญ่ มีคอลลาเจนมากถึง 12 ถึง 24 เปอร์เซ็นต์ การที่มีคอลลาเจนเพียงพอ จะส่งผลทำให้การเกิดเส้นเลือดขอดในจุดต่างๆ ลดลง

ดังนั้นแล้ว คอลลาเจน จึงเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นและมีความสำคัญมากๆ ต่อร่างกายของคนเรา และเราจึงจำเป็นต้องรับประทานคอลลาเจน เพื่อช่วยเสริมคอลลาเจนเดิมที่มีอยู่ และทดแทนคอลลาเจนที่เสียไป เพื่อช่วยทำให้ กระบวนการแพร่ในร่างกายยังคงทำงานได้ตามปกติ และส่งผลต่อผิวพรรณที่ดี กระชับเต่งตึง ส่งผลต่อกระดูกเส้นเอ็นและข้อต่อ ไปถึงอวัยวะอื่นๆ ของร่างกาย ให้ยังคงแข็งแรง นั่นเอง

The post 1 ใน 3 ของโปรตีนทั่วร่างกาย คือคอลลาเจน อยากสวยสตรองต้องกิน appeared first on WandeeClinic วันดี คลินิกฉีดฟิลเลอร์ โบท็อเสริมจมูกที่ไหนดี ศัลยกรรม .

…………ย่างเข้าสู่ช่วงวัย 40 อะไรๆที่เคยตึง ก็ดูเหมือนจะมีความหย่อนคล้อย ไม่ว่าจะเป็นผิวพรรณ หรือผิวหน้า เพราะในช่วงวัยนี้ ถือได้ว่าเป็นช่วงวัยที่ผ่านร้อนผ่านหนาว และผ่าน สิ่งที่เรียกว่าอนุมูลอิสระมากว่า 40 ปี สิ่งต่างๆเหล่านี้ที่สะสมในร่างกาย ไม่ว่าจะสะสมในรูปแบบของมลพิษหรือความเครียด มลพิษทางกายและใจ ก็ล้วนแต่ส่งผลต่อสภาพผิวได้ทั้งนั้น แน่นอนว่า การแก้ปัญหาต่างๆเกี่ยวกับผิวพรรณ เพื่อให้ผิวมีความกระชับเต่งตึงได้อีกครั้ง ก็คือ การทาน Collagen

…………เนื่องจาก Collagen คือส่วนประกอบของร่างกาย ซึ่งพบได้มากที่บริเวณผิวและไขข้อ ที่สำคัญคือจะมีการสร้างและการสลายอยู่ตลอดเวลาโดยเฉพาะเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้นร่างกายจะสร้าง Collagen น้อยลง และน้อยลงไปอีกเมื่ออายุ 40 ปี ดังนั้นวันนี้ถ้าหากอยากกลับมามีผิวสวยใสย้อนวัยได้อีกครั้ง เราไปดูกันดีกว่าว่า จะเพิ่ม Collagen ให้ร่างกายได้อย่างไร สำหรับสาววัย 40 ปี

เรื่องคอลลาเจนที่ต้องรู้

………..อย่างที่บอกไปในตอนต้น ว่าร่างกายเรามีCollagenเป็นส่วนประกอบ ซึ่งมันจะสร้างและสไลด์ได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะเมื่ออายุเราเพิ่มมากขึ้น ร่างกายก็จะสร้างCollagenน้อยลง และยิ่งเมื่ออายุ 40 ปีเป็นต้นไป จะยิ่งเห็นผลชัดเจน ถึงสภาพCollagenที่เสื่อมสลายไป แน่นอนว่ามันส่งผลออกมาทางผิวพรรณ ผิวจะเริ่มหย่อนคล้อยไม่เต่งตึงไม่กระชับเหมือนเดิม ซึ่ง การขาดCollagen เป็นสาเหตุหลักของปัญหาผิวทุกรูปแบบ เนื่องจาก Collagen เป็นส่วนประกอบหลักของโปรตีนกว่า 80% ของผิว ซึ่งเจ้าตัวCollagenจะอยู่ที่ผิวหนังชั้นล่าง ซึ่งก็คือชั้นหนังแท้ (Dermis) หมายความว่าการทาครีมทั่วไปจะไม่ได้ผลนั่นเอง และ การ ซ่อมแซมผิวหนังที่ชั้นหนังแท้ เกิดขึ้นได้จากการได้รับCollagenเข้าไปเติมเต็มเท่านั้น

………..ดังนั้นแล้ว การเพิ่มCollagen จึงเป็นสิ่งที่มีความสำคัญ เราจึงจำเป็นที่จะต้องกินอาหารที่ช่วยเสริมสร้างCollagenขึ้นมาใหม่ แต่การรับประทานCollagenโดยทั่วไป อาจจะไม่ให้ผลลัพธ์อย่างที่เราต้องการ 100% เนื่องจาก Collagen เป็นโปรตีนซึ่งมันจะถูกย่อยในกระเพาะอาหารและอาจจะดูดซึมไปไม่ถึงผิวของเรานั่นเอง แต่การทานCollagenเพื่อช่วยกระตุ้นการสร้างCollagenในชั้นผิวก็ยังมีโอกาสเป็นไปได้ถ้าเลือกทำ 3 ข้อดังนี้

3 ข้อควรทำเพื่อการกิน Collagen ให้ได้ผลดี

1. เลือกรับประทาน Collagen ที่ช่วยกระตุ้นการสร้าง

คอลลาเจนในชั้นผิว

Collagen ที่ว่านี้จะเป็น Bio Active Collagen Peptide ซึ่งมีงานวิจัยจากประเทศเยอรมนีพบว่า Collagen ประเภทนี้จะมีโมเลกุลขนาดเล็กมาก ทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมไปกระตุ้นผิวของเราให้สร้าง Collagen ขึ้นมาเพิ่มสูงกว่าปกติได้

2. รับประทานโปรตีนให้เพียงพอ

การจะทาน Collagen เพียวๆ ให้ได้ผล 100% เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ แต่มันจะได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นเมื่อเราทานร่วมกับโปรตีน เนื่องจาก Collagen ก็นับเป็นโปรตีนชนิดหนึ่ง ดังนั้นถ้าหากกินโปรตีนไม่เพียงพอ ปริมาณคอลลาเจนในผิวก็จะลดลงมากขึ้น และหากอยากให้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นต้องทานคู่กัน และทานโปรตีนให้เพียงพอด้วย นั้นเอง

3. ชะลอการสลาย Collagen ด้วยวิตามิน

เมื่อเราพยายามสร้างก็อย่าลืมที่จะรักษา โดยการ ชะลอการสลายของ Collagen ด้วยการรับประทานวิตามิน C, E และ A เพื่อให้ Collagen ทำงานได้ดีมากขึ้น และผิวมีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น

ใครที่กำลังย่างเข้าสู่วัย 40 หรือใครที่ล้ำ 40 ไปแล้ว หรือแม้กระทั่ง สาววัยใสวัยทำงานช่วงอายุ 20 ปีขึ้นไป ก็สามารถดูแลตัวเองด้วยการเลือกรับประทาน Collagen และทำตาม 3 ข้อนี้ได้ เพื่อเป็นการ ดูแลสุขภาพภายในตั้งแต่ยังไม่เกิดปัญหา เมื่อ เราอายุ 40 ปี จะได้ยังคงมีผิวพรรณ ที่เต่งตึงสดใส สตาฟไว้ที่ 25 ปี สำหรับวันนี้ วันดี คลินิก ต้องขอตัวลาไปก่อนแล้ว สวัสดีค่า

วันดี คลินิก ขอนแก่น (wandee clinic ) คลินิกความงาม ที่ได้มาตรฐาน ครบวงจร พร้อมมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมีความยินดีที่จะให้บริการ และคอยให้คำปรึกษาแก่คุณลูกค้าทุกท่านและแก้ปัญหาที่คุณต้องการ ไม่ว่าจะเป็น ฉีดโบท็อกซ์ ขอนแก่น , ฉีดฟีลเลอร์ ขอนแก่น , ร้อยไหม ขอนแก่น , คลินิก ขอนแก่น , ผิวขาว ขอนแก่น อย่างเป็นกันเองค่ะ
สามารถสอบถามเพิ่มเติมที่:
วันดี คลินิก  344/17 ซอยรื่นรมย์ ต.ในเมือง อ.เมือง ขอนแก่น 40000
 Tel: 097-9355556
 Line: @wandeeclinic
 Line คลิกที่ : https://line.me/R/ti/p/%40wandeeclinic
เว็บไซต์ :   www.wandeeclinic.com

The post งานวิจัยสำหรับวัย 40 กับวิธีทานคอลลาเจนให้ได้ผลดี appeared first on WandeeClinic วันดี คลินิกฉีดฟิลเลอร์ โบท็อเสริมจมูกที่ไหนดี ศัลยกรรม .

การรับประทานคอลลาเจนเป็นเรื่องที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายมากขึ้นในยุคปัจจุบัน เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่า มันคือสิ่งที่จะช่วยเสริมสร้างสุขภาพในหลายๆ ด้านให้กับตัวเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประสิทธิภาพและผลลัพธ์ที่ดีต่อเรื่องผิวพรรณ ซึ่งเป็นผลลัพธ์ที่สาวๆ ทุกคนต้องการ การซื้อหาคอลลาเจนมารับประทาน จึงไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่สิ่งที่เราจำเป็นต้องรู้ก็คือ ประโยชน์ที่เราจะได้รับจากการรับประทานคอลลาเจนมีอะไรบ้าง ดังนั้นวันนี้เราจะพาทุกท่านไปดูว่า เงินที่เราเสียไป กับประโยชน์ที่จะได้รับ จากการรับประทานคอลลาเจนซึ่งมีผลต่อสุขภาพผิวพรรณในด้านต่างๆ มีดังนี้

• ช่วยให้ฝ้าที่ใบหน้าลดลง

การรับประทานคอลลาเจนช่วยให้ฝ้าที่ใบหน้าลดลง ผลลัพธ์นี้คือสิ่งที่ได้จากงานวิจัย ในผู้หญิงจำนวน 62 คนที่มีภาวะฝ้าบนใบหน้า หลังจากที่รับประทานผลิตภัณฑ์ที่ประกอบไปด้วยคอลลาเจนเปปไทด์ และสารสกัดจากดอกเก๊กฮวย 10 กรัม ทุกวัน เป็นเวลา 2 เดือน หรือ 60 วัน พบว่า รอยดำที่ฝ้าเริ่มจางลง เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ได้รับประทานผลิตภัณฑ์ประเภทคอลลาเจนที่ประกอบไปด้วยสารสำคัญต่างๆ ข้างต้น

• ผิวชุ่มชื้นมีความยืดหยุ่นมากขึ้น ลดอาการผิวแห้ง

อีกงานวิจัยพบว่าผู้หญิงที่รับประทานผลิตภัณฑ์คอลลาเจน ในปริมาณ 2.5 ถึง 5 กรัมต่อวัน เป็นเวลา 2 เดือน หรือ 8 สัปดาห์ ให้ผลลัพธ์ในเรื่องของผิวพรรณมีความชุ่มชื้นมากขึ้น มีความยืดหยุ่นของผิวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ ช่วยลดภาวะผิวแห้ง เมื่อเปรียบเทียบกับผู้ที่ไม่ได้รับประทาน

• ริ้วรอยร่องลึกดูตื้นขึ้น

เมื่อเราแสดงสีหน้าและอารมณ์ บนใบหน้าของเราก็มักจะปรากฏริ้วรอยและร่องลึก การรับประทานผลิตภัณฑ์คอลลาเจน ช่วยลดริ้วรอยร่องลึกเหล่านั้นลงได้ จากงานวิจัยและการศึกษาจากผู้หญิงที่ดื่มเครื่องดื่มผสมคอลลาเจนทุกวันเป็นเวลา 12 สัปดาห์

• กระตุ้นให้ร่างกายผลิตคอลลาเจนได้ด้วยตัวเอง

การรับประทานคอลลาเจนอย่างต่อเนื่องในปริมาณที่เหมาะสม ช่วย กระตุ้นให้ร่างกายสามารถผลิตคอลลาเจนได้ด้วยตัวเองอีกครั้งแม้จะอายุเพิ่มมากขึ้น เราไปถึงการเสริมสร้างคอลลาเจน ด้วยการเพิ่มโปรตีนในร่างกาย จะยิ่งช่วยให้โครงสร้างผิวรวมทั้งอิลาสตินและไฟบริลลิน เพิ่มมากขึ้นด้วย

• ชะลอความแก่ของผิว

อายุผิว ไม่ได้หมายถึงอายุของเรา แต่อายุผิวหมายถึงอายุเซลล์ ดังนั้นหมายความว่า ใครก็ตามที่อายุ 20 แต่มีผิวดูแก่ เหมือนผิวคนอายุ 30 ขึ้นไปหรือผิวอายุคน 40 นั่นหมายความว่าอายุผิวของคนแก่ลง จึงทำให้ดูแก่ก่อนวัยนั่นเอง การทานคอลลาเจนจะช่วยชะลอความแก่ของผิวได้ ในกรณีที่รับประทานอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม การที่จะมีผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใส และการรับประทานคอลลาเจนให้ได้ผลดี ตาม 5 ประโยชน์ของการรับประทานคอลลาเจน ข้างต้นนี้ จำเป็นที่จะต้องรับประทานอาหารหลักที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ดูแลตัวเองในด้านการนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ ดื่มน้ำให้มาก และปรับสภาวะอารมณ์ให้แจ่มใสอยู่เสมอ ก็จะช่วยให้เราเป็นเจ้าของผิวพรรณที่เปล่งปลั่งสดใสดูอ่อนกว่าวัยอยู่เสมอนั่นเอง

The post 5 ประโยชน์ของคอลลาเจนต่อสุขภาพผิว appeared first on WandeeClinic วันดี คลินิกฉีดฟิลเลอร์ โบท็อเสริมจมูกที่ไหนดี ศัลยกรรม .

คอลลาเจน คือสิ่งที่หลายคนเลือกให้เป็นผู้ช่วยคนสำคัญในการกู้ผิวเสียให้กลายเป็นผิวสวย และเพื่อเป็นการทดแทน collagen ที่จะสูญเสียไปเรื่อย เมื่อเรามีอายุที่เพิ่มมากขึ้น แต่ต้องมีวิธีการรับประทานอย่างถูกต้อง รวมไปถึงการเลือกทานยี่ห้อที่มีคุณภาพและมีการผลิตจากแหล่งที่เชื่อถือได้ก็มีส่วนสำคัญไม่แพ้กัน

collagen ที่ดีควรเป็นอย่างไร

……..collagen ที่ดีและมีคุณภาพ จะต้องมีโมเลกุลขนาดเล็ก เพื่อให้ร่างกายสามารถดูดซึมและนำไปใช้ได้อย่างเต็มที่ ยกตัวอย่างเช่น collagen ในรูปแบบซอง ซึ่งนอกจากจะพกพาสะดวกแล้ว ยังรับประทานยังไง เพียงแค่ฉีกซองเติมไปในน้ำเปล่า ก็สามารถดื่มได้ทันที หรือ การรับประทาน collagen แบบเม็ด ก็ไม่ใช่เรื่องผิด และหากถามว่า ระหว่างแบบซอง ซึ่งเป็นผงชงดื่ม และแบบเม็ด อะไรดีกว่ากัน คำตอบก็คือ ขึ้นอยู่กับปริมาณ collagen ประเภท และการผลิต ซึ่งต้องมีความน่าเชื่อถือ และอย่างที่บอกไป ว่าขนาดโมเลกุลต้องมีขนาดเล็กที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เพื่อการดูดซึมที่ดีนั่นเอง สิ่งที่สำคัญ ที่จะทำให้การรับประทาน collagen ได้ผลดีและเห็นผลเร็วที่สุด จึงไม่ใช่ประเภทของ collagen ว่าเป็นแบบเม็ดหรือแบบซองดี แต่ขึ้นอยู่กับวิธีการรับประทานให้ถูกต้อง ดังนี้

2 เทคนิค วิธีทาน collagen ให้ได้ผลดี

• รับประทานคอลลาเจนในช่วงท้องว่าง

………การรับประทาน collagen ในช่วงท้องว่าง รับประทานก่อนอาหารเช้าประมาณ 30 นาที จะช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึม collagen ได้ดีมากขึ้น เนื่องจากกระเพาะยังไม่มีอาหาร ยังไม่มีกระบวนการย่อย คิดภาพว่าในขณะท้องว่าง ยังไม่มีอาหารอื่นใดที่เรารับประทานเข้าไป และเมื่อเราดื่มหรือทาน collagen เข้าไป เป็นอย่างแรก กระบวนการดูดซึมในกระเพาะอาหารและลำไส้ก็จะเริ่มต้นทำงาน ดังนั้นมันจึงสามารถดูดซึมคอลลาเจนได้ทันที

• รับประทานควบคู่กับวิตามินซี

…….การรับประทาน collagen ควบคู่กับวิตามินซี คือสิ่งที่ดีที่สุดและช่วยให้เห็นผลเร็วมากที่สุด เนื่องจาก กระบวนการสร้าง collagen เปปไทด์ จำเป็นที่จะต้องมีวิตามินซีเข้าไปช่วยในกระบวนการออกซิเดชัน จึงทำให้ คอลลาเจนที่ทานเข้าไปนั้นสามารถสร้างได้สมบูรณ์ ดูดซึมได้ดีขึ้น

นอกจากนี้แล้วควรดื่มน้ำเยอะๆ ดูแลสุขภาพด้วยการพักผ่อนให้เพียงพอ และยิ่งดื่มน้ำเยอะเท่าไหร่ collagen จะยิ่งเข้าไปช่วยอุ้มน้ำในร่างกายได้มากขึ้นอีกด้วย ดังนั้น น้ำ และวิตามินซี คือส่วนสำคัญของ collagen ทั้ง 3 อย่างนี้ จึงต้องรับประทานควบคู่กัน ในปริมาณที่เพียงพอนั่นเอง ทั้งนี้ ผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นกับแต่ละบุคคล มีโอกาสที่จะเห็นผลช้าหรือเร็วแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับสุขภาพภายในของแต่ละบุคคลอีกด้วย

วันดี คลินิก ขอนแก่น (wandee clinic ) คลินิกความงาม ที่ได้มาตรฐาน ครบวงจร พร้อมมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมีความยินดีที่จะให้บริการ และคอยให้คำปรึกษาแก่คุณลูกค้าทุกท่านและแก้ปัญหาที่คุณต้องการ ไม่ว่าจะเป็น ฉีดโบท็อกซ์ ขอนแก่น , ฉีดฟีลเลอร์ ขอนแก่น , ร้อยไหม ขอนแก่น , คลินิก ขอนแก่น , ผิวขาว ขอนแก่น อย่างเป็นกันเองค่ะ
สามารถสอบถามเพิ่มเติมที่:
วันดี คลินิก  344/17 ซอยรื่นรมย์ ต.ในเมือง อ.เมือง ขอนแก่น 40000
 Tel: 097-9355556
 Line: @wandeeclinic
 Line คลิกที่ : https://line.me/R/ti/p/%40wandeeclinic
เว็บไซต์ :   www.wandeeclinic.com

The post 2 เทคนิคทานคอลลาเจนให้ได้ผลดี เห็นผลเร็ว appeared first on WandeeClinic วันดี คลินิกฉีดฟิลเลอร์ โบท็อเสริมจมูกที่ไหนดี ศัลยกรรม .

………….พูดถึงเรื่องสภาพผิวหน้าตามทฤษฎี คลินิกความงาม คลินิกศัลยกรรม ซึ่งมีทั้งผิวธรรมดา ผิวแห้ง ผิวมัน ผิวผสม แต่สำหรับผิวกายที่มักจะพบว่ามีประเภทผิวหลัก 2 ประเภท คือ ผิวแห้ง และผิวธรรมดา เชื่อว่าปัญหากวนใจสำหรับสาวๆ ที่ทำให้เราไม่สวยไม่งามตามที่ใจอยาก คงมีมากมายไล่เรียงตั้งแต่หัวจรดเท้าก็ว่าได้ และหนึ่งในนั้น ก็คือปัญหาผิว ไม่ว่าจะผิวหมองคล้ำ ผิวขาดน้ำหรือขาดความชุ่มชื้น

………….โดยเฉพาะหน้าหนาว ที่เรียกได้ว่าไม่มีมอยเจอไรเซอร์ประเภทไหนเอาอยู่ ทำให้เราทั้งหลายต้องประสบกับภาวะผิวแห้ง บางคนหนักถึงขั้นผิวแตกลายลอกเป็นขุยพูดน่าเกลียดแบบไม่มีอะไรมากั้นเลยก็ว่าได้ และถ้าใครกำลังประสบปัญหาเหล่านี้แต่อยากหลีกหนีมันให้ใกล ย้ายค่ายมาเป็นสาวผิวสวยมีสุขภาพดีแล้วล่ะก็ วันนี้คลีนิกความงาม มีเคล็ดลับดีๆ ที่จะช่วยให้คุณสาวๆ สามารถอวดผิวสวยใสสภาพดีและมีความชุ่มชื้นแม้ใน่วงหน้าหนาวมาฝากกัน ไปดูกันเลย

3 เทคนิคดูแลผิวให้สวยใส ชุ่มชื้น ดูสุขภาพดี

3 เทคนิคการดูผิวสวย ให้ดูเป็นคนมีสุขภาพดี จะมีเทคนิคอะไรบ้าง และเราสามารถเอาไปทำตามได้หรือไม่ ไปดูพร้อมๆ กันเลยค่ะ ว่ามีเทคนิคอะไรบ้าง ตามมาเลยค่า

 1. ดื่มน้ำเยอะๆ

อ๊ะๆ อย่าเพิ่งเบื่อกับสิ่งนี้ค่ะสาวๆ แม้ว่ามันจะเป็นทฤษฎีคลีนิกความงาม ที่เราได้ยินมาไม่รู้กี่รอบ ตรงข้าม การที่เราเปิดไปที่ไหนก็พบว่ามักจะมีคำแนะนำเรื่องการดูแลผิวและดูแลสุขภาพโดยให้ดื่มน้ำเยอะๆ นั่นก็เป็นเพราะว่ามันไม่ใช่แค่ทฤษฎีเท่านั้น แต่มันคือเรื่องจริงที่ทำแล้วเก็นผลลัพธ์ดีที่สุด ประเด็นอยู่ตรงที่ว่า หลายคนบ่นว่าเอะอะก็ให้ดื่มน้ำเยอะๆ หรือ รู้แล้วว่าอยากผิวสวยต้องดื่มน้ำเยอะๆ เบื่อแล้ว มีเทคนิคอื่นบ้างไหม บลา ๆๆๆๆ ใดๆ ก็ตาม เรื่องง่ายๆ แค่การดื่มน้ำเยอะๆ เราทำได้หรือยัง ถ้าหากยัง ก็แนะนำว่าเลิกหาเทคนิคอื่นแล้วทำตามนี้ รับรองว่า การดื่มน้ำวันละ 2 ลิตร หรือ 3 ลิตร จะส่งผลดีต่อผิว และสุขภาพอย่างแน่นอน

2. บำรุงผิวพิเศษ

การบำรุงผิวพิเศษแบบคลีนิกความงาม คือการเพิ่มรายละเอียดในการอาบน้ำอีกสักนิด โดยการสคลับผิวเพื่อให้ผิวผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไป เผยผิวใสอย่างแท้จริง เพราะการ Dead Cell หรือเซลล์ผิวที่ตายแล้วเกาะอยู่ตามผิวหนัง ก็เปรียบเสมือนการที่เราไม่ได้อาบน้ำ และ Dead Cell ยังเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ผิวเราไม่ได้รับวิตามินหรือสารบำรุงผิวในโลชั่นบำรุงผิวอย่างเต็มที่อีกด้วย ดังนั้น ก่อนจะรับของใหม่ ต้องเคลียร์ของเก่าก่อน เพื่อให้ผิวได้ประโยน์จากการบำรงผิวนั้นตอนต่อไปอย่างเต็มที่

3. บำรุงผิวด้วยน้ำมันมะพร้าว+โลชั่นบำรุงผิว

เรียกว่าเป็นไฮไลท์สำหรับ Topic ในวันนี้เลยก็ว่าได้ สำหรับสาวๆ ที่อยากมีผิวเนียน นุ่ม น่าสัมผัส แบบไม่ต้องพึ่งคลีนิกความงาม ให้บำรุงผิวด้วยน้ำมันมะพร้อมสกัดเย็น โดยหลังอาบน้ำแล้วเช็ดตัวให้แห้ว จากนั้นชโลมน้ำมันมะพร้าวลงบนผิว แล้วตามด้วยโลชั่นบำรุงผิวยี่ห้อใดก็ตามตามที่คุณสาวๆ ใช้กันอยู่เป็นประจำ โดยคณสมบัติองน้ำมันมะพร้าวจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว แล้วยังช่วยปลอบประโลมผิวจากความเมื่อยล้า ที่สำคัญ ยังช่วยให้ผิวดูเนียนนุ่มน่าสัมผัสและดูมีสภาพดีมากขึ้นอีกด้วย

3 เทคนิคง่ายๆ ในการดูแลผิวจากภายนอกแบบฉบับคลีนิกความงาม เอาใจสาวๆ ที่อาจจะไม่สะดวกในการดูแลจากภายใน ซึ่งเราสามารทำได้ง่ายๆ มากๆ และเห็นผลลัพธ์ที่ดีต่อผิวได้อย่างแน่นอน ใครที่อยากผิวสวยใส และโดยเฉพาะสาวๆ ผิวแห้ง อยากให้ผิวมีความชุ่มชื้นมากขึ้น หากทำตาม 3 เทคนิคนี้ รับรองว่าจะสามารบอกลาปัญหาผิวของคณได้ 100% เลยล่ะ แต่ต้องทำต่อเนื่อง โดยเฉพาะข้อสุดท้าย คลีนิกความงาม คลินิกศัลยกรรม แนะนำว่าหากสามารถทำได้ทุกวันจะเป็นเรื่องที่ดีมากค่ะ เพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจนและรวดเร็วมากขึ้น สำหรับวันนี้ วันดี คลินิก ต้องขอตัวลาไปก่อน สวัสดีค่ะ

วันดี คลินิก ขอนแก่น (wandee clinic ) คลินิกความงาม ที่ได้มาตรฐาน ครบวงจร พร้อมมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมีความยินดีที่จะให้บริการ และคอยให้คำปรึกษาแก่คุณลูกค้าทุกท่านและแก้ปัญหาที่คุณต้องการ ไม่ว่าจะเป็น ฉีดโบท็อกซ์ ขอนแก่น , ฉีดฟีลเลอร์ ขอนแก่น , ร้อยไหม ขอนแก่น , คลินิก ขอนแก่น , คลินิกศัลยกรรม อย่างเป็นกันเองค่ะ
สามารถสอบถามเพิ่มเติมที่:
วันดี คลินิก  344/17 ซอยรื่นรมย์ ต.ในเมือง อ.เมือง ขอนแก่น 40000
 Tel: 097-9355556
 Line: @wandeeclinic
 Line คลิกที่ : https://line.me/R/ti/p/%40wandeeclinic
เว็บไซต์ :   www.wandeeclinic.com

The post 3 เทคนิค ดูแลผิวให้ดูสุขภาพดี ฉบับคลินิกศัลยกรรม สาวผิวแห้ง-แห้งมาก ห้ามเลื่อนผ่าน appeared first on WandeeClinic วันดี คลินิกฉีดฟิลเลอร์ โบท็อเสริมจมูกที่ไหนดี ศัลยกรรม .

……………ปัจจุบันนี้เราจะเห็นได้ว่ามีผลิตภัณฑ์บำรุงและมีสูตรสำหรับดูแลผิวหน้า ไม่ว่าจะเป็นสูตรใดก็ตามก็มักจะมี collagen เป็นส่วนผสมเป็นส่วนใหญ่ ซึ่ง collagen นั้นก็คือ โปรตีนเมทริกซ์นอกเซลล์ ซึ่งเป็นอะไรที่ไม่สามารถละลายน้ำได้ แต่จะทำหน้าที่คล้ายกับกาวที่คอยยึดเกาะเซลล์ผิวหนัง ข้อต่อ พังผืด รวมไปถึงกล้ามเนื้อให้แน่นสนิทเต่งตึงอยู่เสมอ

ดังนั้นเมื่อร่างกายขาดคอลลาเจน การยึดติดในส่วนต่างๆ เหล่านั้น ก็เบาบางลง ทำให้ขาดความแข็งแรงหรือผิวหนังหย่อนคล้อย และเกิดริ้วรอย ตามมา หรือแม้กระทั่งอาการปวดตามข้อ ส่วนหนึ่งเกิดจากการขาดคอลลาเจน สิ่งที่สำคัญคือในเซลล์ผิวหนังของร่างกายคนเราจะมีคอลลาเจนเป็นส่วนประกอบมากถึง 75% แต่มันก็จะค่อยๆลดลงตามอายุที่เพิ่มขึ้นปีละ 1% ทุกๆปี จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเราจำเป็นที่จะต้องสรรหาcollagenประเภทต่างๆ มาคอยเติมเต็มให้กับร่างกายเราอยู่เสมอ

ซึ่งวันนี้อาจจะไม่ได้พูดถึงสรรพคุณหรือประโยชน์ของcollagenแต่อยากจะแนะนำสำหรับสาวๆ หรือใครก็ตามที่กำลังมองหาcollagenว่าจะเลือกแบบไหนดีระหว่าง คอลลาเจนแบบผงและคอลลาเจนแบบเม็ด ไปดูคำแนะนำกันเลย

Collagen แบบรับประทาน ระหว่าง

แบบผงและแบบเม็ด

ระหว่าง collagen แบบผงและแบบเม็ด มีจุดประสงค์เดียวกันก็คือการรับประทานเข้าไปในร่างกายเพื่อให้ร่างกายสามารถเสริมสร้างคอลลาเจนที่มีอยู่เดิม ให้มีความแข็งแรง และกระตุ้นให้ร่างกายสร้างcollagenใหม่ขึ้นมาเพิ่มเติม สำหรับcollagenแบบผง จะบรรจุในกล่องหรือในซอง แล้วเราสามารถนำมาผสมกับน้ำดื่มได้เลย หรือในส่วนของcollagenอัดเม็ดที่เราสามารถรับประทานได้เหมือนอาหารเสริม

Collagen แบบผง

สำหรับcollagenแบบผงจะมาในรูปของเครื่องดื่ม หรืออาจจะมาในรูปของผมcollagenที่อยู่ในซอง โดยในส่วนของเครื่องดื่มสำเร็จรูปจะมีการผสมวิตามินซีและน้ำผลไม้ ซึ่งการทำงานของcollagenจะสามารถดูดซึมได้ดีขึ้นเมื่อร่างกายได้รับควบคู่ไปกับการทานวิตามินซี

Collagen แบบเม็ด

สำหรับ collagen แบบเม็ดสามารถทานได้ง่าย ซึ่งเราสามารถหาซื้อ collagen ได้ตามห้างสรรพสินค้าหรือคลินิกเสริมความงามทั่วไป

ซึ่งหากถามว่าระหว่าง 2 แบบนี้ อย่างไหนดีกว่ากัน ในส่วนของผลลัพธ์ที่ได้ ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานแบบผงหรือแบบเม็ดก็ตาม ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นสภาพร่างกายภายในของแต่ละคน รวมไปถึงปริมาณ collagen ที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์นั้นๆ และการดูแลตัวเอง โดยตัวของ collagen ไม่ว่าจะเป็นแบบผงหรือแบบเม็ดก็ตาม ต้องใช้เวลากว่าจะเห็นผล

ดังนั้นแล้วถ้าหากรับประทานควรทานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนอกจากนี้แล้วอย่าลืมศึกษาให้ดีว่า collagen ที่เราซื้อหามารับประทานมีงานวิจัยรองรับหรือไม่หรือแบรนด์นั้นมีความน่าเชื่อถือและปลอดภัยจากสารอันตรายหรือไม่ ตลอดจนการรับประทานอาหารในมื้อปกติให้ได้คุณภาพรับประทานอาหารที่ช่วยเสริมสร้าง collagen ก็จะช่วยทำให้เรา ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการมากยิ่งขึ้น

วันดี คลินิก ขอนแก่น (wandee clinic ) คลินิกความงาม ที่ได้มาตรฐาน ครบวงจร พร้อมมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมีความยินดีที่จะให้บริการ และคอยให้คำปรึกษาแก่คุณลูกค้าทุกท่านและแก้ปัญหาที่คุณต้องการ ไม่ว่าจะเป็น ฉีดโบท็อกซ์ ขอนแก่น , ฉีดฟีลเลอร์ ขอนแก่น , ร้อยไหม ขอนแก่น , คลินิก ขอนแก่น , ผิวขาว ขอนแก่น อย่างเป็นกันเองค่ะ
สามารถสอบถามเพิ่มเติมที่:
วันดี คลินิก  344/17 ซอยรื่นรมย์ ต.ในเมือง อ.เมือง ขอนแก่น 40000
 Tel: 097-9355556
 Line: @wandeeclinic
 Line คลิกที่ : https://line.me/R/ti/p/%40wandeeclinic
เว็บไซต์ :   www.wandeeclinic.com

The post 2 คอลลาเจนชนิดรับประทาน แบบผง vs แบบเม็ด อันไหนดี appeared first on WandeeClinic วันดี คลินิกฉีดฟิลเลอร์ โบท็อเสริมจมูกที่ไหนดี ศัลยกรรม .