โบท็อกซ์

Botox คืออะไร ?

โบท็อกซ์ (Botox) คือ ชื่อทางการค้าของสารโบทูลินัม ท็อกซิน เอ (Botulinum toxin A) ซึ่งเป็นโปรตีนสกัดจากแบคทีเรียเฉพาะ (Clostridium botulinum) ที่จะช่วยจับกับปลายประสาทที่ควบคุมกล้ามเนื้อ เพื่อยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อในบริเวณที่ฉีด ให้กล้ามเนื้อไม่สามารถหดตัวได้ และอยู่ในสภาพคลายตัว การฉีดโบท็อกซ์จะช่วยทำให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดดูเล็กลง กระชับขึ้น หรือช่วยเติมเต็มร่องริ้วรอย กระชับรูขุมขนและริ้วรอยให้ตื้นขึ้น 

Botox คืออะไร ?

ฉีดโบท็อก ตรงไหนดี ?

การฉีดโบท็อกซ์สามารถฉีดได้หลากหลายจุด ซึ่งการฉีดแต่ละจุดนั้นจะใช้ปริมาณของโบท็อกซ์ที่แตกต่างกัน โดยส่วนมากจะขึ้นอยู่กับปัญหาแต่ละจุด รวมถึงขนาดกล้ามเนื้อ

  • โบท็อกซ์ลดกราม 1 ข้าง 20-35 ยูนิต
  • โบท็อกซ์ลิฟต์กรอบหน้า 20-30 ยูนิต
  • โบท็อกซ์หน้าผาก 12-20 ยูนิต
  • โบท็อกซ์ระหว่างคิ้ว 20-35 ยูนิต
  • โบท็อกซ์ริ้วรอยตีนกา 10-18 ยูนิต
  • โบท็อกซ์รักแร้ ลดเหงื่อ 50-100 ยูนิต
  • โบท็อกซ์ลดกล้ามแขน 200 ยูนิต
  • โบท็อกซ์ลดกล้ามเนื้อน่อง 200 ยูนิต

ทั้งนี้ควรปรึกษาแพทย์ก่อนฉีดโบท็อกซ์ เนื่องจากขนาดกล้ามเนื้อและปัญหาของแต่ละคนนั้นแตกต่างกัน

Botox รักษาริ้วรอยบนใบหน้าได้อย่างไร ?

การฉีดโบท็อกซ์ ถือเป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมสูง สามารถแก้ปัญหาเกี่ยวกับผิวหน้าได้หลายส่วน ไม่ว่าจะเป็น ริ้วรอย ที่เกิดจากการหดตัวของกล้ามเนื้อเมื่ออายุมากขึ้น  ในหลาย ๆ บริเวณ เช่น หน้าผาก หางตา หว่างคิ้ว สามารถแก้ปัญหาผิวหน้าได้หลากหลายส่วน เช่น ริ้วรอย ไม่ว่าจะเป็น หางตา รอยย่นหว่างคิ้ว หน้าผาก การฉีดสารโบท็อกซ์จะช่วยทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว ช่วยให้ริ้วรอยในบริเวณที่ฉีดดูจางลงใน 1-2 สัปดาห์ และสามารถอยู่ได้นานถึง 4-6 เดือน ทำให้ผิวหน้าเรียบเนียนมากขึ้น

Botox ลดกราม ทำหน้า V-shape ได้อย่างไร ?

ใครที่กำลังมีปัญหาเรื่องกรามใหญ่ กรามชัด ถ่ายรูปมุมไหนก็ไม่เรียว อาจจะเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น ในคนที่ชอบเคี้ยวอาหารนาน ๆ  หรือชอบทานอาหารเหนียว แข็ง อาจะจะทำให้กล้ามเนื้อกราม Masseter บริเวณมุมของกระดูกขากรรไกร นั้นแข็งแรงและมีขนาดที่ใหญ่มากขึ้น จนอาจจะทำให้รูปหน้ามีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งการฉีดโบท็อกซ์จะช่วยลดการทำงานของกล้ามเนื้อกราม ทำให้กรามมีขนาดเล็กลง หน้าเรียวมากขึ้น ผลลัพธ์หลังฉีดโบท็อกซ์จะอยู่ได้นานถึง 4-6 เดือน

แต่การฉีดโบท็อกซ์นั้นจะไม่สามารถได้ผลลัพธ์ สำหรับคนที่มีเนื้อกระดูกขากรรไกรที่หนา ทำให้ดูกรามใหญ่  เพราะโบท็อกซ์จะฉีดเข้าที่บริเวณกล้ามเนื้อ และออกฤทธิ์กับกล้ามเนื้อ แต่ไม่ส่งผลต่อกระดูก ดังนั้นก่อนจะฉีดโบท็อกซ์ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อที่แพทย์จะได้ทำการวิเคราะห์ใบหน้า และปัญหาของเราได้อย่างละเอียด

ฉีดโบท็อกซ์

Botox ลดขนาดขา และน่องได้อย่างไร ?

คนที่มีปัญหาน่องปูด หรือต้นขามีความไม่กระชับ การลดเฉพาะส่วนที่ได้ผลไว คือ การฉีดโบท็อกซ์ หลายคนที่ชื่นชอบการวิ่ง อาจจะมีปัญหาเกี่ยวกับกล้ามเนื้อบริเวณน่องที่ดูโตขึ้น และแข็งแรงขึ้น จนทำให้สาว ๆ หลายคนอาจจะไม่มีความมั่นใจ การฉีดโบท็อกซ์เข้าสู่กล้ามเนื้อ จะทำให้กล้ามเนื้อทำงานได้น้อยลง จึงทำให้ขนาดของน่องลดลง และสามารถคงผลลัพธ์ได้ยาวนานถึง 3-6 เดือน

Botox ใช้ลดเหงื่อได้จริงหรือไม่ ?

การฉีดโบท็อกซ์นั้น นอกจากจะฉีดบริเวณใบหน้า เพื่อความสวยงามแล้วนั้น ยังสามารถช่วยรักษาภาวะเหงื่อออกมากผิดปกติ (Hyperhidrosis) ได้อีกด้วย หากใครมีปัญหาเหงื่อออกมากกว่าปกติ สามารถฉีดโบท็อกซ์บริเวณรักแร้ ฝ่ามือ ฝ่าเท้า เพื่อเข้าไปยับยั้งการหดตัวของกล้ามเนื้อ รวมถึงปลายประสาทที่กระตุ้นต่อมเหงื่อ ทำให้เหงื่อบริเวณนั้น ๆ ออกน้อยลง นอกจากจะลดเหงื่อแล้ว ยังสามารถลดกลิ่นตัว เพิ่มความมั่นใจได้อีกด้วย ซึ่งผลการรักษาจะอยู่ได้นานถึง 4-6 เดือน

Botox ใช้รักษาใบหน้าหย่อนคล้อยได้อย่างไร ?

เมื่ออายุมากขึ้นหลาย ๆ คนอาจจะเจอกับปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อย โดยเฉพาะบริเวณกล้ามเนื้อลำคอ ที่จะทำงานมากขึ้น และดึงใบหน้าให้มีความเหี่ยวย่น การฉีด Botox จะช่วยกระชับกรอบหน้า และกล้ามเนื้อบริเวณกรอบหน้าดูชัดขึ้น ซึ่งผลลัพธ์ของการฉีดโบท็อกซ์จะอยู่ได้นานถึง 2-4 เดือน ทั้งหากการหย่อนคล้อยของใบหน้าเกิดจากไขมันส่วนเกิน หรือการขาดคอลลาเจน อาจจะทำให้การรักษาด้วยโบท็อกซ์ไม่ได้ผล จะต้องทำหัตถการอื่นร่วมด้วย ดู รีวิวฉีดโบท็อกซ์ เพิ่มเติมได้ที่นี่

ฉีดโบท็อกซ์ ยี่ห้อไหนดี ?

ฉีดโบท็อกซ์ ยี่ห้อไหนดี ? ปัจจุบัน (ปี 2023 ) มียี่ห้อโบท็อกซ์ที่ผ่านการขึ้นทะเบียน สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ในประเทศไทย จำนวน 8 ยี่ห้อ ดังนี้

Allergan

Allergan Botox โบท็อกซ์สัญชาติอเมริกา ที่ได้รับความนิยมสูงมากในไทยและทั่วโลก ถือเป็นโบท็อกซ์ยี่ห้อแรกที่ผ่านองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา Allergan Botox จะใช้สาร Onabotulinumtoxin ที่ใช้รักษาริ้วรอย มีความบริสุทธิ์สูงมากถึง 99.5% ตัวยาโบท็อกซ์กระจายตัวแคบ และมีการออกฤทธิ์ที่แม่นยำ Allergan ผลิตโดย บริษัท Allergan ประเทศอเมริกา เป็นบริษัทยาที่มีผลิตภัณฑ์หลากหลายตัว เช่น ฟิลเลอร์ Juvederm หรือ เทคโนโลยีสลายไขมันด้วยความเย็น Coolsculpting ทั้งนี้ตัวยาของ Allergan Botox สามารถอยู่ได้นานถึง 5-6 เดือน

Allergan Botox สามารถฉีดได้หลายบริเวณ เช่น ลิฟต์กรอบหน้า ยกกระชับเหนียงคอ ลดกราม ปรับรูปหน้า และลดริ้วรอย เช่น ริ้วรอยระหว่างคิ้ว ริ้วรอยหน้าผาก ริ้วรอยตีนกา เฉพาะจุด เช่น ลดเหงื่อบริเวณรักแร้  ฝ่ามือ ฝ่าเท้า ลดน่อง

Allergan Botox

Dysport

Dysport botox เป็นโบท็อกซ์จากประเทศอังกฤษ จะมีตัวยาที่กระจายตัวกว้างกว่าโบท็อกซ์อเมริกา จึงไม่ทำให้ใบหน้าดูแข็ง มีความธรรมชาติ เป็นโบท็อกซ์ที่มีความบริสุทธิ์สูง และอยู่ได้นานถึง 4-6 เดือน มีการนำเข้า และจัดจำหน่ายในประเทศไทยโดยบริษัท กัลเดอร์มา ประเทศไทย ที่เดียวเท่านั้น ถือเป็นอีกหนึ่งยี่ห้อโบท็อกซ์ที่ได้รับความนิยม

โบท็อกซ์ Dysport สามารถฉีดได้หลายบริเวณ เช่น ลิฟต์กรอบหน้า ลดริ้วรอยหน้าผาก หรือบริเวณระหว่างคิ้ว เฉพาะจุด เช่น กล้ามเนื้อต้นแขน น่องขา ลดเหงื่อบริเวณรักแร้ ฝ่ามือ  

โบท็อกซ์ Dysport

 Xeomin

Xeomin botox โบท็อกซ์ยอดฮิตจากประเทศเยอรมัน ที่มาพร้อมเทคโนโลยีเฉพาะอย่าง XTRACT Technology ที่พัฒนามาใช้ในกระบวนการผลิต ทำทำให้มีการปนเปือนโปรตีนน้อย ทำให้โบท็อกซ์มีความบริสุทธิ์สูง จึงมีโอกาสดื้อยาน้อย และมีขนาดโมเลกุลขนาดเล็ก จึงทำให้ออกฤทธิ์ได้ดี ฉีดแล้วมีความเป็นธรรมชาติ หน้าไม่ดูแข็ง และสามารถอยู่ได้ถึง 4-6 เดือน

Xeomin สามารถฉีดได้หลากหลายส่วน เช่น ลดริ้วรอยทั่วใบหน้า ปรับรูปหน้าเรียว ลิฟต์กรอบหน้า ลดกราม ลดเฉพาะจุด เช่น ลดกล้ามเนื้อน่อง แขน

Xeomin

Nabota

อีกหนึ่งโบท็อกซ์ยอดนิยมของไทย  ที่เรียกได้ว่าหลาย ๆ คนน่าจะรู้จักกันดี อย่าง Nabota Botox โบท็อกซ์สัญชาติเกาหลี  ได้พัฒนาเทคโนโลยี HI-PURE Technology ที่มีเฉพาะยี่ห้อนี้เท่านั้น ทำให้มีความบริสุทธิ์ของโบท็อกซ์สูง จึงดื้อยาน้อย และทำให้ออกฤทธิ์ค่อนข้างไว สามารถอยู่ได้นานกว่า 4-6 เดือน Nabota Botox ถือเป็นโบท็อกซ์เกาหลียี่ห้อเดียวที่ผ่านการรับรองจาก USFDA (U.S. Food and Drug Administration) นอกจากนี้ยังได้รับอย. ไทย

 Nabota Botox สามารถแก้ไขปัญหาได้หลายจุด เช่น ลดริ้วรอยทั่วใบหน้า ปรับรูปหน้าเรียว ลดกราม ลิฟต์กรอบหน้า ลดกล้ามเนื้อน่องขา แขน

Nabota

Aestox

Aestox Botox โบท็อกซ์เกาหลี ที่ได้รับความนิยมสูงในไทย ทั้งยังมีราคาที่ไม่แรง เป็นโบท็อกซ์ที่มีความบริสุทธิ์สูงถึง 99.5% ทำให้ออกฤทธิ์ไว มีความปลอดภัย และผ่านการรับรองจาก KFDA (Korea Food & Drug Administration) รวมถึงผ่านอย.ไทย

สามารถฉีดได้หลากหลายจุด ไม่ว่าจะเป็น การฉีดลดริ้วรอย ลิฟต์กรอบหน้า ลดขนาดกราม หรือการลดกล้ามเนื้อน่องขา แขน ลดเหงื่อบริเวณรักแร้

Aestox

HUGEL

HUGEL Botox เป็นโบท็อกซ์สัญชาติเกาหลี ที่มีความบริสุทธิ์สูง การฉีดโบท็อกซ์ HUGEL จะออกฤทธิ์ดีในเฉพาะจุด มีการกระจายตัวแคบ ทำให้ออกฤทธิ์ไว และอยู่ได้นานถึง 4-6 เดือน

HUGEL สามารถฉีดลดริ้วรอย ปรับหน้าเรียว ยกกระชับกรอบหน้า ลดกราม ลดขนาดกล้ามเนื้อน่อง แขน รวมถึงฉีดเฉพาะจุดรักแร้ได้

HUGEL

CLODEW

CLODEW อีกหนึ่งโบท็อกซ์ยอดฮิตจากเกาหลี เป็นโบท็อกซ์ที่มีเทคนิคเฉพาะตัวอย่าง Double V Lifting ที่จะช่วยกระชับผิว ออกฤทธิ์ได้ไว และอยู่ได้นานกว่า 4-6 เดือน โดย CLODEW เป็นโบท็อกซ์ที่ผลิตบริษัทเดียวกับ โบท็อกซ์ Nabota จึงมั่นใจได้เลยว่าคุณภาพดีแน่นอน

CLODEW Botox เหมาะสำหรับการฉีดลดริ้วรอย ลดกราม ยกกระชับ และลิฟต์กรอบหน้า

CLODEW Botox

BTXA

BTXA เป็นโบท็อกซ์สัญชาติฮ่องกง ที่กำลังได้รับความสนใจอย่างมาก โดยโบท็อกซ์ BTXA มีความบริสุทธิ์สูง 99.5% ทำให้ออกฤทธิ์ได้ไว และอยู่ได้นานถึง 4-6 เดือน

BTXA Botox สามารถฉีดลดริ้วรอย ลดกราม ลิฟต์กรอบหน้าได้

BTXA Botox

Botox มีผลข้างเคียงหรืออันตรายหรือไม่ ?

หัตถการโบท็อกซ์ Botox เป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนานในไทย แต่อย่างไรก็ตามก็อาจจะมีคนที่สนใจ แต่ไม่มั่นใจว่าโบท็อกซ์นั้นอันตรายหรือไม่ ? การฉีดโบท็อกซ์ สามารถช่วยลดริ้วรอย ปรับกรอบหน้าให้เรียว และยกกระชับใบหน้าได้ โดยการเลือกฉีดโบท็อกซ์ที่ผ่านการขึ้นทะเบียนอย.ไทย มีคุณภาพ และเป็นโบท็อกซ์ของแท้ ที่ฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญนั้น จะไม่อันตรายอย่างแน่นอน

แต่หลาย ๆ คนที่เห็นข่าวการฉีดโบท็อกซ์และเกิดผลข้างเคียงที่มีความรุนแรง โดยส่วนหนึ่งเกิดจากการเลือกฉีดโบท็อกซ์กับหมอกระเป๋า หรือผู้ที่ไม่ใช่แพทย์ ไม่ชำนาญ ซึ่งจะได้ราคาที่ถูกกว่าในคลินิกทั่วไป แต่อย่างไรก็ตามคุณภาพและความปลอดภัยก็มีน้อยมาก เพราะอาจจะเจอกับปัญหาโบท็อกซ์ปลอม หรือ Botox ที่ไม่ผ่านอย. ไทย หรือฉีดผิดจุด ทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย และส่งผลกระทบในระยะยาวได้ เช่น หนังตาตก ใบหน้าเบี้ยว หรืออาจจะทำให้ตาบอดได้

ทั้งนี้หากต้องการฉีดโบท็อกซ์ควร เลือกฉีดกับคลินิกที่ถูกกฎหมาย ได้มาตรฐาน มีความสะอาด มีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยดูแล และเลือกใช้โบท็อกซ์ที่เป็นของแท้ ผ่านอย. ไทย ก่อนฉีดทุกครั้งควรเช็คผลิตภัณฑ์ให้ดี

ข้อควรรู้ก่อน-หลัง ฉีดโบท็อกซ์

ก่อนฉีดโบท็อกซ์ควรเตรียมตัวอย่างไร ?

  • ต้องเลือกใช้โบท็อกซ์แท้ ที่ตรวจสอบได้เท่านั้น
  • ควรเลือกคลินิกเสริมความงามที่ได้มาตรฐาน และมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ สามารถตรวจสอบรายชื่อได้
  • ในการฉีดโบท็อกซ์แต่ละครั้งไม่ควรฉีดโบท็อกเกิน 300 ยูนิต ต่อครั้ง
  • ระหว่างการฉีดควรประคบด้วยความเย็น เพื่อลดการไหลเวียนของเส้นเลือดรอบ ๆ บริเวณที่ฉีด

หลังฉีดโบท็อกควรปฏิบัติตัวอย่างไร ?

  • หลังฉีดโบท็อกควรรีบขยับเกร็งกล้ามเนื้อที่ฉีดทันที 1-2 ครั้ง
  • ไม่ควรนอนราบ 3 ชม. หลังฉีด
  • หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่สัมผัสกับความร้อนโดยตรง เช่น กลางแดด หรืออบไอน้ำ
  • ควรงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด
  • ควรงดการทำหัตถการอื่น ๆ รวมถึงเลเซอร์อย่างน้อย 2 สัปดาห์หลังทำ

ฉีดโบท็อกซ์ ที่ไหนดี ? เลือกคลินิกอย่างไรให้ปลอดภัย ?

การฉีดโบท็อกซ์ถือเป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมสูงในปัจจุบัน เพราะด้วยเรื่องของผลลัพธ์ที่ดี ราคาที่ไม่แรงมาก ทั้งยังสามารถแก้ปัญหาผิวได้อย่างหลากหลาย ทำให้สาว ๆ หนุ่ม ๆ หลายคนต่างให้ความสนใจ ทั้งนี้การฉีดโบท็อกซ์ หรือการทำหัตถการอื่น ๆ เช่น ฟิลเลอร์ เมโส นั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเลือกคลินิกที่มีมาตรฐานความสะอาด ถูกกฎหมาย ฉีดโบท็อก ที่ไหนดี ? เลือกคลินิกอย่างไรให้ปลอดภัย มีดังนี้

  • เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีใบอนุญาตถูกต้อง และต้องดำเนินงานโดยแพทย์เท่านั้น
  • เลือกคลินิกที่มีความสะอาด น่าเชื่อถือ และสามารถตรวจสอบได้
  • ทีมแพทย์ต้องมีประสบการณ์ และสามารถตรวจสอบได้ โดยนำชื่อ-นามสกุล ตรวจสอบผ่านเว็บไซต์ของแพทยสภา (http://www.tmc.or.th/check_md/)
  • ใช้ตัวยาของแท้ ที่สามารถตรวจสอบได้เท่านั้น และเลือกใช้อุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน

Review