12 ข้อควรระวังหลังทำ ศัลยกรรมกราม ที่คุณไม่ควรพลาด สำหรับสาวอยากหน้าเรียว

ศัลยกรรมกราม

ศัลยกรรมกราม เทรนด์หน้าเรียวฮิตตลอดกาล ไม่ว่าสาวคนไหนก็อยากมีใบหน้าที่เรียวเล็ก ถ่ายภาพออกมาแล้วหน้าดู V shape สวยทุกมุม ขี้เกียจถ่ายภาพแบบปิดๆบังๆแล้ว ใช้วิธีนี้ วิธีเดียวรู้ผลไม่ต้องเอียงให้ปวดคอ ไม่ว่าจะถ่ายมุมไหนก็สามารถถ่ายออกมาได้สวยเลยทีเดียว แต่การผ่าตัดกราม จำเป็นต้องมีการดูแลตัวเองหลายอย่างหลังผ่าตัดจะมีอะไรบ้างเรามาดูกันค่ะ

ใครบ้างที่สามารถผ่าตัดกรามได้

ผู้ที่จะเข้ารับการผ่าตัด ศัลยกรรมกราม ต้องมีสุขภาพดี มีวุฒิภาวะพอที่จะสามารถยอมรับผลลัพธ์การผ่าตัดหรือภาวะแทรกซ้อนใด ๆ ที่จะเกิดขึ้นได้ และควรทำหลังช่วงอายุที่ร่างกายหยุดการเจริญเติบโตแล้ว โดยสำหรับผู้หญิงจะเป็นช่วงอายุประมาณ 13-15 ปี ส่วนในผู้ชายควรทำเมื่ออายุ 16-18 ปีเสียก่อน

ข้อควรรู้มีดังนี้

  1. หลังผ่าตัด คุณต้องใส่เวเฟอร์เพื่อล็อกฟันอย่างน้อย 1 เดือนต่อเนื่อง หรือตามดุลพินิจของ และจะถอดเฉพาะเวลารับประทานอาหารเท่านั้น
  2. ควรทำการประคบเย็นหลังผ่าตัดศัลยกรรมในช่วง 3-4 วันแรก ซึ่งการประคบเย็นจะช่วยไม่ให้มีอาการบวมมากขึ้น และช่วยให้เลือดหยุดไหล ซึ่งหลังจากการทำประคบเย็นแล้วก็ควรประคบอุ่นช่วยอีกแรง เพราะนอกจากจะช่วยให้ลดอาการบวมได้แล้วยังช่วยให้เลือดบริเวณนั้นเกิดการไหลเวียนต่อไปได้นั่นเอง
  3. การผ่าตัดกรามเกี่ยวข้องกับช่องปาก เพราะการผ่าตัดเกิดขึ้นในช่องปาก ดังนั้น ในการทำความสะอาดจะต้องบ้วนปากด้วยสายละลายฆ่าเชื้อเข้มข้นที่ได้รับจากโรงพยาบาลเสมอ ซึ่งคุณจะต้องบ้วนปากหลังจากกินอาหาร โดยขณะที่บ้วนปาก ไม่ควรกระทุ้งแก้ม แต่ให้เอียงศีรษะ ซ้าย ขวา และค่อยๆบ้วนออกอย่างระมัดระวัง เพื่อไม่ให้แผลด้านในแตกออก และเพื่อป้องกันเศษอาหารติดในช่องปาก และทำให้เกิดการติดเชื้อทีภายหลังนั่นเอง
  4. ช่วงแรกๆหลังการผ่าตัด ศัลยกรรมกราม คุณควรรับประทานอาหารเหลว หรืออาหารเสริมทดแทนมื้ออาหารประเภทโปรตีนจะทำให้แผลหายเร็วขึ้น เพราะโปรตีนช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอได้ในช่วงที่คุณไม่สามารถทานอาหารได้ตามปกติ เพิ่มเติมอีกนิด หากคุณคิดอะไรไม่ออกว่าควรทานอาหารอะไร ให้คุณทานอาหารประเภทสารอาหารอ่อน เช่น น้ำต้มข้าว น้ำผลไม้ นม โยเกิร์ต ที่สามารถดื่มได้ และหลังจากนั้นค่อยเริ่มทานอาหารอ่อน เช่นโจ๊ก และนม โดยค่อยๆเพิ่มปริมาณที่ทานขึ้น หลังจากผ่านไป 2 สัปดาห์จึงสามารถเริ่มทานอาหารปกติได้ สารอาหารแบบเหล่านี้จะเข้าไปทดแทน สารอาหารที่คุณไม่สามารถรับประทานได้ตามปกตินั่นเอง
  5. คุณสามารถออกกำลังกายเบาๆ ได้ ไม่ควรออกกำลังกายหนัก เพราะมันอาจจะกระทบกระเทือนถึงกรามที่คุณทำจนทำให้เกิดแผลอักเสบได้ ซึ่งการออกกำลังกายเบาๆนี้เองจะช่วยให้ระบบไหลเวียนของเลือดทำงานได้ดี และทำให้อาการบวมหายได้เร็วอีกด้วยค่ะ ฉะนั้น แนะนำให้คุณออกกำลังกายด้วยการเดินประมาณ 20 – 30 นาที ก็ได้ค่ะ เพราะยิ่งเลือดไหลเวียนดี ก็จะทำให้เลือดบริเวณแผลผ่าตัดไหลไม่คลั่งบริเวณบาดแผลมากจนทำให้อาการบวมหายช้า
  6. คุณควรเข้าโปรแกรมลดบวมหลังการผ่าตัดศัลยกรรมอย่างน้อยวันละ 30 นาทีเพราะจะช่วยให้อาการบวมดีขึ้นอย่างรวดเร็วนั่นเอง
  7. คุณควรไปตามนัดของหมอทุกหนึ่งเดือน และกินยาตามที่แพทย์สั่งอย่างต่อเนื่อง และตรงต่อเวลา เพื่อให้บาดแผลจากการผ่าตัดหายเร็วขึ้น
  8. การบวมจากการผ่าตัดอาจต้องใช้ระยะเวลานาน หรือจำเป็นต้องใช้เวลานาน หากคุณต้องการให้ใบหน้าหายบวมเร็วๆ ควรกินอาหารเสริม และไม่ควรฉีดยาลดบวมเด็ดขาด เพราะอาจจะเป็นอันตรายต่อคนไข้ หรือสุขภาพของคนไข้ในภายหลังได้ หากคุณต้องการลดอาการบวมบนใบหน้าจึงควรใช้วิธีธรรมชาติในการลดบวมจะดีกว่า
  9. การดูแลสุขภาพตัวเองหลังการผ่าตัดสำคัญมาก แต่เรื่องจิตใจก็สำคัญไม่แพ้กัน หากอาการบวมบนใบหน้าหายช้าก็ไม่ควรกังวลจนจิตตก เพราะอาจจะทำคุณเข้าสู่สภาวะเครียดได้ง่าย แล้วพลอยทำให้หน้าหายบวมช้ายิ่งขึ้นไปอีก ดังนั้น คุณไม่ต้องกังวลค่ะ ให้คุณทำจิตใจตัวเองให้แจ่มใส โดยการหากิจกรรมอะไรผ่อนคลาย หรือเข้าโปรแกรมลมบวมโดยวิธีธรรมชาติ ไม่นานใบหน้าของคุณต้องลดอาการบวมได้อย่างแน่นอน
  10. การรับประทานอาหารเองก็สำคัญ ซึ่งอาหารที่คุณควรจะงดเลยก็คือ อาหารจำพวกหมักดอง แอลกอฮอล์ ของแข็ง ของเหนียวที่ต้องใช้แรงในการกัดเคี้ยวเยอะ ซึ่งอาหารจำพวกหมักดองแอลกอฮอล์นี้เองอาจส่งผลให้มีการติดเชื้อของแผลตามมาได้ ระวังไว้ก่อนจะดีกว่า ส่วนของแข็งและของเหนียวยังไม่สามารถเคี้ยวได้นะ เพราะมันต้องใช้แรงมาก และอาจกระทบกับแผลการผ่าตัดได้ รวมถึงพยายามอย่าทานอาหารรสจัดด้วย เพราะการทานอาการรสจัดจะทำให้แผลหายช้า เนื่องจากเลือดจะมาเลี้ยงบริเวณใบหน้ามากนั่นเอง
  11. กรณีการตัดไหม หากเป็นแผลนอกจะตัดภายใน 7 วัน ตามใบนัดแพทย์ ส่วนแผลภายในส่วนมากจะใช้ไหมละลาย แต่ถึงอย่างนั้นหากแพทย์นัดตรวจก็ควรไปพบตามที่แพทย์สั่งอย่าผิดนัดเป็นอันขาด ทำตามที่แพทย์สั่งดีที่สุดค่ะ
  12. หากมีอาการผิดปกติ เช่น มีเลือดสีแดงสดจำนวนมากออกทางปาก ให้รีบประคบเย็นนอกช่องปากแล้วมาพบแพทย์ภายในเวลา 24 ชั่วโมง และหากมีอาการบวมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆไม่มีลดหลังจากผ่านไปหลายวันแล้ว บางทีมันอาจเป็นอาการติดเชื้อ ให้คุณรีบไปพบแพทย์โดยด่วน หรือหากสังเกตว่าขากรรไกรผิดรูปไปจากเดิมก็ควรรีบพบแพทย์โดยด่วน สุดท้ายนี้ หากมีอาการผิดปกติอื่นๆที่คุณสามารถสังเกตได้แนะนำว่าอย่าใจเย็น รีบไปพบแพทย์จะดีที่สุด

 

ฉีดโบท็อกซ์ ขอนแก่น , ฉีดฟีลเลอร์ ขอนแก่น , ฉีดฟิลเลอร์คาง , คลินิก ขอนแก่น , ผิวขาว ขอนแก่น

ฉีดโบท็อกซ์ อุดร  ,  ฉีดฟีลเลอร์ อุดร    ,  คลินิก อุดร  ,  เสริมจมูก อุดร

วันดี คลินิก ขอนแก่น (wandee clinic ) คลินิกความงาม ที่ได้มาตรฐาน
มีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ คอยให้คำปรึกษา และแก้ปัญหาที่คุณต้องการ
สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ :
วันดี คลินิก  344/17 ซอยรื่นรมย์ ต.ในเมือง อ.เมือง ขอนแก่น 40000

โทร : 097-935-5556
Line : @wandeeclinic
เว็บไซต์ :  www.wandeeclinic.com

หน้าแรก
รีวิว คลินิก
โปรโมชั่น
ติดต่อเรา